คนสวนในบ้าน “กำนันนก” ยอมพูดแล้ว หลังอึดอัดมานาน พร้อมเผยนิสัยที่คาดไม่ถึง

จากกรณีเหตุอุกอาจ เมื่อ "นายธนัชชัย หมั่นมาก" หรือ "หน่อง ท่าผา" อายุ 45 ปี ลูกน้องคนสนิทของ "นายปวีณ จันทร์คล้าย" หรือ "กำนันนก" ได้ใช้อาวุธปืนยิง "พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว" สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิตกลางงานเลี้ยงภายในบ้าน

 

 

ต่อมา คนสวนรายหนึ่งในบ้าน กำนันนก ได้ยอมรับสารภาพหลังโดนสอบว่า ตนเป็นคนเอาปืนไปซ่อนให้กำนันเอง และได้ถูกคุมตัวไปยังจุดทิ้งปืนและตรวจสอบ ก่อนพบเป็นปืนของตำรวจรายหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ในวันเกิดเหตุหลัง หน่อง ท่าผา ยิงสารวัตรแบงค์แล้ว ตนได้รับปืนจากกำนันเอง จากนั้นได้นำปืนใส่ผ้าโต๊ะจีนมาฝังไว้ที่ท้ายอ่างเก็บน้ำประปานครซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่สาวของตัวเอง

 

 

ล่าสุด 10 ก.ย.66 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจคุมตัว “นายเก่ง” คนสวนในบ้าน กำนันนก รายดังกล่าวที่นำปืนไปฝังมาสอบปากคำ ซึ่งทาง นายเก่ง มีสีหน้าที่เครียดอย่างชัดเจน และบางช่วงบางตอนที่สอบปากคำยังร้องไห้ออกมา โดย นายเก่ง ให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุยิง สารวัตรแบงก์ค์ ตนไม่ได้อยู่โต๊ะที่เกิดเหตุ แต่เดินมาโต๊ะ กำนันนก หลังจากได้ยินเสียงปืนสิ้นสุดลง ช่วงนั้นชลมุนมาก จู่ๆ มีตำรวจ 1 ใน 6 นายที่ถูกออกหมายจับ นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมายื่นใส่มือตนเอง ก็เข้าใจว่าเป็นการฝากปืนไว้ชั่วคราว จากนั้นไม่มีใครมาเอา จึงนำไปใส่ห่อผ้า โดยใช้ผ้าคลุมของโต๊ะจีนเป็นสิ่งห่อปืนไว้ และขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน

 

 

หลังจากนั้นนำห่อปืนใส่ถุงกระเป๋านมของลูกที่วางอยู่หน้าบ้าน เพราะไม่อยากเอาปืนเข้าบ้าน พอถึงเช้าอีกวัน ไม่มีใครติดต่อมาว่าจะจัดการอย่างไรกับปืนกระบอกนี้ หรือกำนันนกจะให้นำไปคืนที่ไหน ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ ด้วยความกลัว จึงนำห่อปืนไปขุดหลุมฝังไว้ที่บริเวณบ่อน้ำใกล้กรงหมาท้ายซอยเสน่ห์หา 1 จากนั้นไม่มีใครติดต่อมาสอบถามหรือขอรับปืนคืน กระทั่งตำรวจเรียกมาสอบปากคำในครั้งแรก ตอนนั้นไม่กล้าพูดเพราะกลัว แต่เมื่อถูกตำรวจถามหลายคำถาม และรู้สึกอึดอัดใจกับเรื่องนี้มาตลอด จึงยอมให้ข้อมูลกับตำรวจ

 

 

นอกจากนี้ นายเก่ง เผยอีกว่า กำนันนกเป็นเจ้านายที่ดี ชอบช่วยเหลือลูกน้อง และดูแลลูกน้องแบบพี่น้องไม่ใช่เจ้านาย ลูกน้องก็รักและเคารพ หากการก่อเหตุของผมนั้น ตำรวจจะดำเนินคดีก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะนำไปฝังดินจริงเเนื่องจากคิดอะไรไม่ออกในเวลานั้น ส่วนกรณีการล้างคราบเลือด นายเก่ง ยืนยันว่า ไม่มีการล้างเลือดของสารวัตร เพราะเลือดสารวัตรนั้นเลอะอยู่ที่เก้าอี้ที่นั่ง คราบน้ำที่เห็นเป็นเพียงคราบน้ำแข็งที่ละลายและมีเลือดผสมเล็กน้อย จึงเข้าใจว่ามีการล้างเลือด