- 13 ก.ย. 2566
พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร แฉข้อมูล"กำนันนก" ยัดใต้โต๊ะ เงินก้อนโต3ล้านบาท ให้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ แต่ถูกปฏิเสธ
กรณีคดีกำนันนก ทาง พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร อดีตนายตำรวจมือพระกาฬ และอดีตผบช.ปส. ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว"ไทยนิวส์" ทราบข้อมูลมาว่ากำนันนก เคยให้ลูกน้องที่เป็นตำรวจยศผู้กอง นำเงิน 3 ล้านไปให้ "ผกก.เบิ้ม" พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หลังได้รับคำสั่งให้มาปราบส่วยในนครปฐม แต่ถูกผกก.เบิ้มปฏิเสธ
ซึ่งเงินนั้นเข้ากองกลางนำไปปรับปรุงกองกำกับให้ดูดี เพราะผกก.เบิ้มไม่รับเงิน ผู้บังคับบัญชาส่งให้มาปราบส่วย ทำงานตรงเป็นไม่บรรทัด
พล.ต.ท. เรวัช ยอมรับอนาถใจ หลังผกก.เบิ้ม ยิงตัวตาย เสียดายน้องมันไม่น่าไปคิดสั้น ส่วนตัวมองว่าผกก.เบิ้ม ไม่ได้มีความผิด อะไร ส่วยก็ไม่ได้รับ และการจับมือปืนก็ถูกจับทันทีหลังก่อเหตุ ส่วนผกก.ก็พาลูกน้อง คือ สารวัตรแบงค์ไปส่งรพ.
ในส่วนความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 13ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 7 พร้อมด้วยตำรวจสอบสวนกลาง หน่วยปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระดมกําลังเข้าตรวจค้นเครือข่าย นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก โยงพฤติการณ์ฮั้วประมูลที่ได้งานจากกิจการรับเหมาก่อสร้างที่มีชื่อกํานันนก เป็นกรรมการบริษัท 2 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ปูพรมค้น 15 จุด ในพื้นที่ อ.เมือง 13 จุด และ อ.กําแพงแสน 2 จุด ใน จ.นครปฐม
โดยจุดสําคัญซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแห่งหนึ่งที่มีชื่อกํานันนกเป็นกรรมการ ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นกิจการแพล้นปูน ก่อสร้าง มีรถบรรทุกและรถแบ็คโฮหลายสิบคัน พบพนักงานยังคงเข้ามาทํางานตามปกติ
ภายหลังการเข้าตรวจค้น นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า การปฏิบัติการในวันนี้เป็นการบูรณาการจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตํารวจ ปปช. ปปง. และกรมสรรพากร ในการร่วมกันค้นหาพยานหลักฐานเอกสารสำคัญ ที่ใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างและเอกสารการฮั้วประมูล ซึ่งอาจจะมีการซุกซ่อนอยู่ในบริษัทดังกล่าว โดยหลังจากนี้จะนำหลักฐานที่ได้มาทั้งหมดไปตรวจสอบและประมวลผล
เชื่อว่าหากนําเอกสารทั้งหมดมาประมวลผลแล้วจะช่วยทําให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น และจะได้ทราบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งเชื่อได้ว่ากำนันนกไม่ได้ลงมือเพียงลำพัง ต้องมีคนคอยสนับสนุน และวันนี้ได้ให้ทางกรมสรรพากรมาร่วมตรวจสอบเรื่องการเสียภาษีอีกด้วยว่าบริษัทแห่งนี้มีการเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจค้นวนจุดอื่น เบื้องต้นพบความเชื่อมโยงกันเกือบทั้งหมด