- 14 ก.ย. 2566
ทนายยื่นหนังสือถึง ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เร่งส่งตัว "เอกชัย หงส์กังวาน" ไปรักษาที่โรงบาลธรรมศาสตร์ คาดอาการอยู่ในขั้นรุนแรงถึงชีวิต
จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า ทนายยื่นหนังสือถึง ผอ.โรงบาลราชทัณฑ์ เร่งส่งตัว ‘เอกชัย’ ไปรักษาที่โรงบาลธรรมศาสตร์ คาดอาการอยู่ในขั้นรุนแรงถึงชีวิต
วันที่ 13 ก.ย. 2566 ทนายความในคดีของ “เอกชัย หงส์กังวาน” นักกิจกรรมทางการเมืองและผู้ต้องขังคดีสิ้นสุดแล้ว วัย 48 ปี ได้ยื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อขอส่งตัวจำเลยไปเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี
ก่อนหน้านี้ เอกชัยถูกนำตัวส่งแอดมิทอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 2566 และล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2566 แพทย์ก็ได้ตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 11X8 ซม. อยู่ที่ท้องด้านขวา หลังจากได้รับการเจาะเลือดไปตรวจหาโรคและหาเซลล์มะเร็ง เอกชัยบอกว่า เป็นตำแหน่งใกล้กับ ‘นิ่วในถุงน้ำดี’ จุดเดิมซึ่งอยู่ติดกับตับที่เคยเป็นเมื่อปี 2548 แต่ได้รับการรักษาและผ่าตัดออกไปแล้วในปีนั้น ครั้งนั้นเขาใช้เวลารักษาและผ่าตัดรวมทั้งสิ้นเพียง 8 วันเท่านั้น
ปัจจุบันเอกชัยรักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มาแล้ว 6 วัน โดยอยู่ในห้องผู้ป่วยรวม ซึ่งมีผู้ป่วยประมาณ 30 เตียง ส่วนใหญ่เป็นนักโทษผู้ป่วยที่มีอายุมากแล้ว ป่วยหลายโรค อาทิ น้ำท่วมปอด โรคเกี่ยวกับอายุรกรรม โรคทางต่อมไร้ท่อ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 ก.ย. 2566 เอกชัยได้ถูกเบิกตัวจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มายังศาลอาญา เพื่อร่วมการพิจารณาในฐานะจำเลย ในคดี ‘คนอยากเลือกตั้ง’ ที่บริเวณหน้าองค์กรสหประชาชาติ หรือคดี UN62 เมื่อช่วงปี 2561
เอกชัยเปิดเผยแพร่ในระหว่างการพิจารณาคดีว่า เขาต้องการเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เนื่องจากเห็นว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีความพร้อมที่จะทำการผ่าตัดให้กับเขาได้
ในหนังสือลงวันที่ 13 ก.ย. 2566 มีใจความสำคัญระบุว่า เอกชัยมีอาการป่วยรุนแรง ผิวหนังภายนอกเป็นสีเหลือง และดวงตาส่วนของตาขาวเป็นสีเหลือง ไม่สามารถทานอาหารได้ และนอนไม่หลับ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยแพทย์ให้รอฟังผลการตรวจเลือด และได้รับแจ้งจากแพทย์ผู้ทำการรักษาว่าอาจจะต้องนำชิ้นเนื้อในช่องท้องไปส่งตรวจเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรคโดยละเอียด
ทั้งนี้ ทนายความมีความกังวลว่าอาการของจำเลยจะอยู่ในขั้นรุนแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ และเอกชัยก็มีความประสงค์ที่จะขอให้ส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในทันที เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และจำเลยมีความมั่นใจว่าจะโรงพยาบาลดังกล่าวจะสามารถเยียวยาและรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้