- 14 ก.ย. 2566
"บิ๊กโจ๊ก" ไม่ทน ขอคืนความเป็นธรรมให้ "สารวัตรแบงค์" หลังเห็นภาพกล้องวงจรปิดบ้าน "กำนันนก" เผยชัดเอายังไงกับคนโกหก!
ความคืบหน้า “คดีกำนันนก” หลังชุดสืบสวนสอบสวนได้นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด ส่งสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือจากเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด จากนั้นแกะเซิร์ฟเวอร์ นำเข้าเครื่องอบไล่ความชื้น จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมกับวิศวกรคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบอะไหล่ที่ได้รับความเสียหายหรือชำรุดแล้วเปลี่ยนเพื่อกู้ภาพ
หลังจากนั้นพบว่า เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดสามารถเปิดทำงานได้ และมีช่องสัญญาณ 16 ช่อง แต่ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพียง 15 ตัว ทำให้ช่องสัญญาณว่าง 1 ช่อง ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ และวิศวกรคอมพิวเตอร์ทราบ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับหลักฐานที่พบคือ กล้องวงจรปิด 15 ตัว โดยสามารถกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดได้ 13 ตัว อีก 2 ตัว อยู่ระหว่างการกู้ภาพ
ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 13 ตัว บันทึกภาพชัดเจนทั้งภาพที่บุคคลใครบ้างที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันเกิดเหตุ ภาพใครบ้างที่วิ่งหนีหลังเกิดเหตุ และใครบ้างที่ช่วยเหลือ สารวัตรแบงค์ และรองผู้กำกับการตำรวจทางหลวง เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งเท่าที่ดูภาพพอจะรู้แล้วว่าใครบ้างที่ปิดบังข้อเท็จจริง ใครบ้างที่โกหก
ซึ่งในเบื้องต้นภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดกับคำให้การของตำรวจสวนทางกันหมด พร้อมกับยืนยันนาทีเกิดเหตุยิงสารวัตรแบงค์ ไม่มีใครตำรวจคนไหนจับนายหน่อง เอาแต่วิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง ส่วนตำรวจที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลนั้นก็ไม่ได้เยอะอย่างที่มีข้อมูลออกไปก่อนหน้า ส่วนคนบอกว่าช่วยแต่จริงๆไม่ช่วยก็มี
ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพลา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากในคลิปเสียงปืนนัดแรกก็วิ่งไปกันละ คำให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีใครยืนอยู่ข้างตำรวจเลย ไม่เป็นไรผมก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เอาความเป็นธรรมมาคืนสู่ สารวัตรแบงค์ เรื่องนี้ไม่จบแค่ย้ายหรือช่วยราชการ แบบเก่าๆ ที่ทำกันจะไม่ทำแล้ว สั่งเด้งไปช่วยราชการเพื่อซื้อเวลาไม่เอาแล้ว สำหรับผมไม่ทำ โลกมันสมัยใหม่ ต้องสร้างความยุติธรรมให้ประชาชนเห็น ถ้าใครให้การเท็จคือ "ผู้ต้องหา" ทั้งหมด