- 21 ก.ย. 2566
รองศาสตราจารย์ พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล เจาะปมชีวิต ไอ้เอ็ม พ่อโบกปูนลูกแท้ๆ อาจมี 2 ปัจจัยหล่อหลอมนิสัย ชี้โทษถึงประหารอยู่แล้ว
วันที่ 21 กันยายน 2566 รองศาสตราจารย์ พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล นักอาชญาวิทยา ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคดีพ่อโบกปูนลูก เผยถึงสาเหตุและแนวคิดทำไมคนร้ายซึ่งเป็นพ่อแท้ๆถึงทำกับลูกของตนเองได้
โดย รองศาสตราจารย์ พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล นักอาชญาวิทยา ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า "ในกรณีที่เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจ ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นพ่อแท้ๆและลงมือกับลูกของตนเอง โดยปกติแล้วเราจะพบแต่เคสพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงซึ่งก่อเหตุลักษณะนี้ สิ่งที่น่าตกใจจากการสอบสวนทำให้ทราบว่า พ่อคนนี้อาจมีส่วนร่วมในการลงมือกับลูกของตนเองในก่อนหน้านี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่แปลกใจว่าทำไมคนเป็นพ่อแท้ๆ ถึงทำกับลูกของตนเองได้ขนาดนี้ ในส่วนนี้มองได้ 2 ส่วน 1. สภาพของผู้ก่อเหตุ 2. สิ่งแวดล้อม
1. สภาพของคนก่อเหตุ อาจต้องมองกลับไปดูในเรื่องการเลี้ยงดูในช่วงวัยเด็ก การเติบโตทางสังคม จากข้อมูลทางวิชาการ ถ้าเด็กถูกกระทำตั้งแต่ในวัยเด็กซ้ำๆในระยะเวลาที่นาน ก็จะส่งผลต่อคุณภาพการแสดงออก เวลาเกิดโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่และมีแนวโน้มจะก่อเหตุกระทำความรุนแรงในครอบครัว
2. สิ่งแวดล้อม นั่นคือเพื่อนและคนรอบข้าง เพราะเชื่อมโยงในส่วนเรื่องการใช้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ โดยใช้สิ่งเหล่านี้สม่ำเสมอถี่ๆ ก็จะส่งผลให้เช่นเดียวกัน
ในส่วนประเด็นคำถามว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเกี่ยวกับทางจิตหรือไม่ เพราะผู้ต้องหาได้กล่าวอ้างว่าตนเองกินยาจิตเวชเคยปรึกษาหมอด้านจิตเวช ในส่วนนี้ต้องให้คุณหมอด้านจิตเวชเป็นผู้ประเมินไม่ใช่จะเชื่อตามคำอ้างของผู้ต้องหา ซึ่งหมอจิตเวชจะประเมินข้อมูลก่อนจะชี้ว่าป่วยจิตหรือไม่
ในส่วนอัตราโทษของคดีที่เกิดขึ้นมีอัตราโทษประหารชีวิตอยู่แล้ว ในส่วนคำกล่าวอ้างว่าตนเองนั้นป่วยจิตเวช ตัวผู้ต้องหาอาจจะใช้ช่องว่างทางด้านกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้ไม่รับโทษทางกฏหมาย เพราะฉะนั้นแล้วในส่วนนี้ต้องให้คุณหมอด้านจิตเวชเป็นผู้ประเมินเพียงเท่านั้น
ในส่วนผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของเด็ก โดยจะแบ่งเป็นประเด็นคือ 1. คุณแม่อาจกลัวถูกทำร้ายจากสามี เพราะตนเองก็เคยถูกทำร้ายมาเหมือนกัน จึงเป็นไปได้ถึงรูปก่อเหตุ
2. สาเหตุที่ทำไปเพื่อเป็นการพึ่งพิง ภาวะทางเศรษฐกิจหรือไม่ เช่น รายได้ตนเองไม่เพียงพอจึงต้องอาศัยเงินจากฝ่ายสามี จึงทำให้ร่วมก่อเหตุ แต่สิ่งที่น่าคิดทั้งตัวพ่อและแม่ของเด็กไม่เคยมีสายใยทางครอบครัวกับเด็กเลย นั่นคือ ความผูกพันพ่อแม่ลูกซึ่งตรงนี้มองแล้วน่ากลัว สำหรับสังคมไทยในปัจจุบัน
ในส่วนนี้ก็ต้องยอมรับในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การติดต่อสื่อสาร คุณพ่อคุณแม่มักจะพูดคุยผ่านหน้าจอโทรศัพท์กับลูกโดยไม่มีการเจอหน้ากันจริงๆ เพราะฉะนั้นในทางวิชาการ สิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความสมบูรณ์แบบ คือการปลูกฝัง คุณธรรมคุณงามความดี การอบรมสั่งสอนในสิ่งที่ถูกต้องจากคุณพ่อคุณแม่ ถ่ายทอดไปยังลูกและบุตรหลาน สถาบันครอบครัวยังเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุด เป็นสิ่งที่ต้องหล่อหลอมให้พฤติกรรมของมนุษย์ให้เด็กที่โตมาเป็นคนดี เป็นคนที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ นั่นหมายความว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องมีเวลาให้กับลูก นอกเหนือจากการให้เงินและให้ลูกไปเรียนหนังสือเพียงเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการปฏิสัมพันธ์ พูดคุยกันมากขึ้นซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นน้อยลง ซึ่งเรื่องก็คือการวางแผนครอบครัวในเรื่องการมีบุตรเมื่อพร้อม