- 11 ต.ค. 2566
จากกรณีคุณแม่รายหนึ่งโพสต์ว่าลูกตกรถไฟแม้มาถึงก่อนเวลารถออก 1 นาที แต่นายสถานีแจ้งว่าไม่สามารถโบกให้รถหยุดให้ขึ้นได้ ล่าสุดการรถไฟตรวจสอบกล้องวงจรปิดพร้อมชี้แจงโต้กลับ
จากกรณีคุณแม่รายหนึ่งได้โพสต์ข้อความในกลุ่ม "รถไฟไทย Train Thailand" ขอคำปรึกษาว่าลูกตกรถไฟแม้มาถึงสถานีก่อนเวลารถออก 1 นาที ทว่านายสถานี้แจ้งว่าไม่สามารถหยุดรถแล้วให้ขึ้นไปได้ ล่าสุด การรถไฟตรวจสอบกล้องวงจรปิด เห็นความจริงกระจ่างก่อนชี้แจงโต้กลับฝั่งแม่ลูกทันที
ตอนแรกคุณแม่โพสต์ว่า "ลูกสาวตกรถไฟขึ้นรถไม่ทัน ในตั๋วเขียนขึ้นรถเวลา 15.24 น. แต่บังเอิญรถติดฝนตกนิดหนึ่ง กว่าลูกจะมาถึงรถไฟออกพอดี แต่เป็นเวลา 15.23 น. รถไฟกำลังจะเคลื่อนตัว สงสัยนาฬิกาลูกเพี้ยนแค่ 1 นาที ลูกวิ่งไปบอกคนโบกธง เขาบอกไม่ทันทั้งๆ ที่รถไฟเพิ่งเปิดหวูด เวลาอีก 1 นาที สรุปไม่ทัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวลา 15.23 น. สอบถามผู้รู้ว่าไม่มีการแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้เลยหรือ รู้ว่าผิดที่คนของเรา แต่เคยเห็นผู้โดยสารมาไม่ทันรถไฟ เขายกธงรอจนขึ้น"
ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ชี้แจงดราม่าพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเผยความจริงกรณีที่เกิดขึ้น ระบุ การรถไฟฯ ชี้แจงดราม่า หลังตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ยืนยันขบวนรถไฟออกตรงตามเวลา
ตามที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข่าว กรณีผู้โดยสารที่เป็นเยาวชนเดินทางมาขึ้นรถไฟ ที่สถานีศาลายาไม่ทัน เนื่องจากขบวนรถมีการออกก่อนเวลา 1 นาทีนั้น นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุดังกล่าว นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที ซึ่งจากตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดภายในสถานี รวมถึงสอบถามข้อมูลกับนายสถานีศาลายาที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่าขบวนรถไฟได้เคลื่อนขบวนออกจากสถานี ตามเวลาที่กำหนดในตั๋วโดยสาร 15.24 น. ไม่ได้มีการออกก่อนเวลาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ รายละเอียดข้อมูลที่ปรากฏจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของนายสถานีศาลายามีรายละเอียดว่า ขบวนรถดังกล่าว คือ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31 กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ โดยในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ขบวนรถได้มาถึงที่สถานีศาลายา เวลา 15.20 น. (ก่อนกำหนดเวลา 3 นาที) ซึ่งตามปกติขบวนรถจะหยุดเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารประมาณ 1 นาที แต่ปรากฏว่าในวันดังกล่าว ขบวนรถได้หยุดที่สถานีศาลายาเป็นเวลา 4 นาที จนกระทั่งถึงเวลา 15.24 น. ซึ่งเป็นเวลาขบวนรถต้องออกตามที่ระบุในตั๋วโดยสาร นายสถานีศาลายาได้ออกมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของผู้โดยสาร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว และประตูขบวนรถไฟอัตโนมัติปิด จึงแจ้งให้พนักงานกั้นถนนนำเครื่องกั้นลง จากนั้นให้สัญญาณขบวนรถออกตามเวลาที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม หลังจากขบวนรถออกจากสถานีไปเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าได้มีผู้โดยสารเยาวชน 2 คน เข้ามาแจ้งนายสถานีว่า ไม่สามารถขึ้นขบวนรถได้ทัน ซึ่งจากการสอบถาม และตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้โดยสารเยาวชนทั้ง 2 คนได้วิ่งเข้ามาคนละฝั่งซึ่งไม่ใช่จุดขึ้นลงขบวนรถ และขบวนรถได้ออกไปแล้ว จึงไม่สามารถแจ้งให้ขบวนรถหยุดได้ เพราะอาจกระทบต่อกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย แต่เพื่อเป็นการให้บริการที่ดี นายสถานีจึงให้ความช่วยเหลือแก่ 2 ผู้โดยสารเยาวชน ด้วยการจัดที่นั่งพักคอย และแนะนำให้ผู้โดยสารเดินทางด้วยรถไฟในขบวนถัดไปที่จะมาถึงสถานีศาลายาในเวลา 16.42 น. เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้โดยสารทั้ง 2 คน ให้เดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
นายเอกรัช กล่าวเพิ่มว่า การรถไฟฯ ข้อแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารทุกคน รับทราบถึงข้อพึงระวังในการเดินทางด้วยรถไฟอย่างปลอดภัย โดยหากขบวนรถกำลังเคลื่อนออกจากสถานี ห้ามผู้โดยสารกระโดดขึ้นหรือลงจากขบวนรถเป็นอันขาด เพราะอาจพลาดพลั้งเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ และกรณีหากมาไม่ทันขบวนรถ ก็ขอให้รอเดินทางด้วยขบวนรถไฟถัดไป ซึ่งท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะและคำติชมจากผู้โดยสาร ที่จะนำมาปรับปรุงการให้บริการรถไฟให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป