รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย 10 ราย รับสารภาพสิ้น

วันที่ 12 ตุลาคม 2566 มีรายงานตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)  รวบแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวกลางถนนมิตรภาพ ผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย เป็นโชเฟอร์คนไทย 1 ราย และอีก 9 รายเป็นแรงงานชาวเมียนมา

 

รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม 

1.นายพงษ์เพชรฯ อายุ 42 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติ ไทย  ผู้ถูกจับที่ 1
2. นายแทซอตา อายุ 29 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 2 
3. นายเชียงเชียงซอ อายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 3
4. นางสาวเชเชียงอู๋ อายุ 42 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 4
5. นางสาวอีมีอ๋อง อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 5
6. นางสาวมู๋ไค อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 6
7. นางสาวอีเนียง อายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 7
8. นางสาวเนียงไล อายุ 21 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 8
9. นางสาวเวเนียะ อายุ 23 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 9
10. นางสาวสุไล อายุ 40 ปี สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 10

สถานที่จับกุม ถนนมิตรภาพ (ทล.2) ขาขึ้น ตรงข้ามร้านอาหารเทพประทาน ระหว่างกิโลเมตรที่ 30-31 ม.6 ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี   

 

รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

 

พร้อมด้วยของกลาง

1. รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก สีเทา จำนวน 1 คัน  
2. โทรศัพท์ สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง  
3. กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก 

โดยกล่าวหาว่า  ผู้ถูกจับที่ 1 "รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม" 

ผู้ถูกจับที่ 2 – 10 "เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"    

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา โดยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ

 

รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.27 ถนนสายเอเชีย ทล.32 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว เบื้องต้นสอบถามชื่อ นายพงษ์เพชรฯ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก สีเทา โดยมีผู้ถูกจับที่ 2 - 10 นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 - 10 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสาน

 

รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

 

จากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณ ป่าข้างทาง พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 9 คน เพื่อไปส่งพื้นที่ชั้นในยังไม่ทราบปลายทางโดยได้รับค่าจ้าง 1,000 บาท/คน ผู้ถูกจับที่ 1 รับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว บรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 9 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่ง

ที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาเป็นครั้งแรกและสอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 10 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทาง จะมีญาติของผู้ต้องหาเป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 12,000 บาท

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 ฐาน "รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม" และ ผู้ถูกจับที่ 
2 - 10 ฐาน "เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" 

 

รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

 

จากนั้นควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนครหลวง ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้และถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้นแล้ว

 

รวบคาหนังคาเขา กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ผู้ต้องหา รับสารภาพสิ้น

 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น

ผู้ถูกจับที่ 1 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ผู้ถูกจับที่ 2 – 10 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา