เศร้า ยอดคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย พบมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่ม

เศร้า รมว.แรงงาน เผยยอดคนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4 ราย รวมเป็น 28 ราย พบมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่ม

จากกรณีสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในอิสราเอล ซึ่งมีแรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตหลายราย ขณะที่บางส่วนยังอยู่ในพื้นที่อันตรายนั้น ล่าสุดวันที่ 15 ต.ค. 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รายงานความคืบหน้าจำนวนคนไทยที่ได้รับผลกระทบในอิสราเอล พบว่ามีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 คน รวมมีคนไทยเสียชีวิตแล้วจำนวน 28 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 คน ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนผู้ที่คาดว่าถูกจับเป็นตัวประกันมีเพิ่มขึ้น 1 คน ทำให้ยอดตัวประกันอยู่ที่จำนวน 17 คน

 

เศร้า ยอดคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย พบมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่ม

นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวภายหลังการต้อนรับกลุ่มแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล 90 คนที่เดินกลับมายังประเทศไทย ว่าซึ่งขณะนี้รายงานไทยได้เดินทางมาถึงแล้ว จำนวน 90 คนและในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) เวลาตี 5-6 โมงเช้า ก็จะมีแรงงานเดินทางกลับมาเพิ่มอีก 137 คน โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ลงที่สนามบินดอนเมือง นอกจากนี้จะมีการเดินทางกลับมา อีกบางส่วนโดยเครื่องบินพาณิชย์ ส่วนจำนวนนั้นจะมากน้อยอยู่ที่การจองตั๋ว สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้เก็บ Order pass หรือบินไว้สำหรับเบิกค่าเดินทางกลับจากรัฐบาลได้


รมว.แรงงาน ยังกล่าวต่อว่า ส่วนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความกังวลมาก คือจะหาวิธีอย่างไรเพื่อให้ได้เครื่องบินเพิ่มมากขึ้น มากกว่าที่ได้มีการประสานเอาไว้ ซึ่งมีสายการบินนกแอร์ 2 ลำ แอร์เอเชีย 2 ลำ และการบินไทย 1 ลำ และกองทัพอากาศ 1 ลำ ซึ่งขณะนี้สามารถเดินทางกลับมาได้ทีละ 200 คน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเอกสารพาสปอร์ตหล่นหาย ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บังเกอร์


ทั้งนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเตรียมพาสปอร์ตสำรองไว้ 8,000 เล่ม โดยเครื่องบินกองทัพอากาศ เพื่อให้ทุกคนกลับมายังประเทศไทยได้ หลังจากนี้ในช่วงต้นที่กลับมาได้เพียง 200 คน ซึ่งภายใน 3-4 วันจะสามารถนำแรงงานชาวไทยกลับมาถึงวันละ 400 คน

 

เศร้า ยอดคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย พบมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่ม

เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงมีการส่งเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ที่เคยอยู่ในประเทศอิสราเอล กลับไปช่วยเหลือเพิ่มอีก 5 คน และทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งไปอีก 10 คน ตนจึงมั่นในว่าทั้งในเรื่องของเอกสารหรือการเตรียมความพร้อมการอพยพ จะมีความรวดเร็วขึ้น ทำให้เชื่อว่าผู้ลงทะเบียนทั้ง 7,000 คน จะสามารถกลับมาถึงประเทศไทยได้ทั้งหมดภายในต้นเดือนหน้า (พฤศจิกายน) นี้


นอกจากนี้สำหรับรายงานไทยที่ทำงานยังไม่ครบสัญญาและเดินทางกลับมาประเทศไทยนั้น โดยทางกระทรวงแรงงาน พร้อมจะช่วยเหลือ ประสานงานกับทางเอเจนซี่ หรือนายจ้างที่ประเทศอิสราเอล หากเหตุการณ์สงบเรียบร้อย แล้วต้องการจะกลับไปทำงานใหม่ ทางกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะปลัดกระทรวงแรงงานพร้อมจะสนับสนุน แต่หากไม่เดินทางกลับประเทศอิสราเอล ขอให้แจ้งเจตจำนงค์มาเพื่อให้ทางกระทรวงแรงงาน หาที่ทำงานใหม่ในประเทศอื่น ส่วนรายได้จะมากกว่าเดิมหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ นอกจากนี้ผู้ที่ยังไม่ได้ ลงทะเบียนขอกลับมานั้น หากรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยขอให้แจ้งมาที่กระทรวงแรงงานได้อีกด้วย


ทั้งนี้ อยากฝากถึงเพื่อนๆชาวแรงงานไทยที่กำลังดูข่าวอยู่ ขอให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย และเชื่อฟังทางการอิสราเอล ที่มีประกาศออกมาเป็นระยะ


สำหรับผู้เสียชีวิตทางการอิสราเอล จะทำการชดเชยให้โดยจะดูแลภรรยาผู้เสียชีวิตโดยมอบเงินไม่ให้เดือนละประมาณ 35,000 บาท จนกว่าจะภรรยาจะแต่งงานใหม่หรือมีสามี และมอบให้บุตรเดือนละประมาณ 11000 บาทจนกว่าอายุ 18 ปี ส่วนแรงงานไทยผู้ที่บาดเจ็บจะมอบให้รายละ 15,000 บาท เสียชีวิต 40,000 บาทและเงินค่าทำศพอีก 40,000 บาท


อย่างไรก็ตาม คนที่อยากจะกลับไปใหม่อีกครั้งนึง กระทรวงแรงงานได้แจ้งนายกฯ ว่าหากใครยังทำงานไม่ครบสัญญา และอนาคตอยากกลับไปทำงานในต่างประเทศต่อ ขอให้สบายใจได้กระทรวงแรงงานจะทำหน้าที่ประสาน เมื่อเหตุการณ์สงบจะนำท่านกลับไปในอิสลาเอล หรืองานในประเทศอื่นๆ ที่มีรายได้ใกล้เคียงหรือน้อยกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อให้ไปทำงานต่อ เพราะรัฐบาลเข้าใจว่าทุกคนที่ไปก็มีหนี้สิน ฉะนั้นหากประสงค์ก็ขอให้แจ้งกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้ ส่วนใครที่จ่ายค่าตัวเองก็ขอให้เก็บตั๋วไว้รัฐบาลจะรับผิดชอบดูแล


ส่วนวันนี้ใครเมื่อกลับมาแล้ว ยังไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ แจ้งไว้ว่า หากใครยังไม่สะดวกเดินทางกลับก็แจ้งความประสงค์ แพทองธาร จะดูแลเรื่องที่พักให้ในเบื้องต้น อย่างไรตนขอให้กำลังใจทุกคนและหากมีอะไรขาดเหลือก็ขอให้ประสานไปที่กระทรวงแรงงาน เพื่อให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะผู้สูญเสีย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้กำลังใจกับคนที่อยู่ภายหลัง