แม่ขนลุก เฝ้าลูกป่วยหนักนอน รพ. เห็นเต็มตาผีมาขอส่วนบุญ ก่อนเกิดปาฏิหาริย์

จากกรณีที่มีผู้ใช้  TikTok @aie_phanwisa ได้โพสต์เล่าเรื่องลี้ลับที่ประสบพบเจอกับตัวเอง หลังจากที่ไปนอนเฝ้าลูกชายรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะสัมผัสวิญญาณมาขอส่วนบุญ เธอจึงได้มีการไปทำบุญกับผีที่มาขอส่วนบุญ ก่อนที่เธอจะขอให้มีโชคลาภ และขอให้ลูกชายที่กำลังป่วยต้องผ่าตัดเจาะปอดอาการดีขึ้น ซึ่งราวกับเรื่องปาฏิหาริย์ อยู่ๆลูกของเธออาการดีขึ้นจนน่าตกใจ แถมงานนี้เธอยังได้รับโชคลาภสมคำปรารถนาอีกด้วย

 

ล่าสุดวันที่ 17 ต.ค. 2566 ทีมข่าวไทยนิวส์ออนไลน์ ได้วีดีโอคอลพูดคุยกับ คุณเอ๋ พรรณวิษา ผู้โพสต์เล่าเรื่องชวนขนหัวลุก โดยคุณเอ๋เล่าย้อนให้ฟังว่า เมื่อช่วงวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ลูกชายของเธอป่วยเป็นโรคไข้ไหวัดใหญ่ ได้ไปแอดมิทที่โรงพยาบาลของอำเภอ ก่อนที่คุณหมอจะตรวจพบว่ามีภาวะไตวายเฉียบพลัน แต่ว่าหมอที่อำเภอไม่มี จึงต้องส่งตัวด่วนไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอาการของลูกชายไม่ค่อยสู้ดี ต้องมีการเจาะคอเพื่อใส่สายยางลงไปในการฟอกเลือด ซึ่งลูกชายต้องอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาลหลายสิบวัน

จนกระทั่งคืนวันที่ 11 ของการนอนเฝ้าลูกที่โรงพยาบาล คุณเอ๋ซึ่งคอยดูแลลูกชาย พาออกกำลังกาย และต้องคอยเช็ดตัวลูกตลอดเวลาเนื่องลูกมีไข้ขึ้นๆลงๆ ทำให้เธอเหนื่อยประกอบกับหิวข้าว จึงได้มีการสั่งอาหารผ่านแอปฯให้มาส่งที่โรงพยาบาลในช่วงเวลาตีสามกว่าๆ สักพักไรเดอร์ส่งอาหารได้โทรมาว่าอยู่อาคารไหน เธอจึงบอกว่าอยู่อาคาร 8 ไรเดอร์จึงบอกว่าถ้าใกล้ถึงแล้วจะโทรมาอีกครั้ง ก่อนที่จะวางสายไป

 

ต่อมาไรเดอร์ได้โทรมารอบ 2 บอกว่าใกล้ถึงแล้วนะครับ แต่ทางคุณเอ๋ได้ยินว่า "ถึงแล้วนะครับ" ก็เลยออกไปรอรับอาหารทันที ซึ่งในระหว่างทางที่เดินออกไปจะประตูกระจกกั้นเป็นล็อกๆ ก็จะมองทะลุออกไปข้างนอกได้ มองออกไปเห็นไรเดอร์รออยู่แล้ว เลยรีบเดินไป เอามือผลักประตูแรกออกไป เขาก็ยังยืนอยู่ที่เดิม พอถึงประตู 2 ก็ยังเห็นอยู่ แต่กำลังจะเปิดประตูมันขัดกัน เลยเงยหน้าขึ้นมองว่าต้องดึงตัวไหนก่อน พอเปิดได้ผลักประตูออกไป ก็ไม่เห็นไรเดอร์แล้ว ก็นึกสงสัยว่าไรเดอร์คงหยิบออเดอร์ผิด คงกลับไปเปลี่ยนมั้ง จึงยืนรอสักพักไรเดอร์ก็เดินมาจากข้างตึก ก่อนที่จะถามเะอว่าใช่พี่มั้ยที่สั่งข้าว คุณเอ๋ก็บอกว่าใช่ค่ะ ก่อนที่จะถามไรเดอร์กลับว่า "เมื่อกี้พี่หยิบออเดอร์ผิดหรือคะ หนูยืนรอตั้งนาน" แต่ไรเดอร์บอกว่า "เปล่าครับ ผมเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เลย"

ทำให้คุณเอ๋พูดเสียงดังว่า "ไม่จริง เมื่อกี้พี่ยังยืนอยู่ตรงนี้อยู่เลย หนูเดินออกมา หนูเห็นพี่" แล้วก็ชี้ไปตรงบันไดขึ้นชั้น 2 ซึ่งไรเดอร์กับยามที่อยู่แถวนั้นก็ตกใจและกลัว เลยพากันเถียงว่าจะเป็นไปได้ยังไง เมื่อกี้หนูยังเห็นพี่ยืนอยู่ตรงนี้อยู่เลย แต่ว่าไรเดอร์ก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเขา ซึ่งความรู้สึกเธอตอนมันไม่ใช่แล้ว มันกลัวไปหมด

 

 

ก่อนที่ตอนเช้า ประมาณ 07.00 น. ได้เล่าให้พ่อบ้านแม่บ้านที่ทำความสะอาดฟัง ว่าหนูเห็นผีผู้ชายตอนตี 4 พร้อมกับชี้ว่าสูงกว่าพ่อบ้านนิดนึง พ่อบ้านกับแม่บ้านมองหน้ากันแล้วบอกว่า ใช่แล้วแหละ หนูเจอแล้ว เขามาขอส่วนบุญหนู ซึ่งตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อ แต่พยาบาลก็มายืนยันอีกเสียงหนึ่งว่า มันเป็นผีจริงๆ เป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เค้าอยู่อาคาร 9 ที่ติดกับเรา เค้าโดดตึกเสียชีวิต ซึ่งพยาบาลเก็บอกให้ไปทำบุญ สงสัยเขาหิวเลยออกมาให้เห็น

ด้วยความปากดีเลยพูดลอยๆ ว่าถ้าอยากได้บุญก็ให้ถูกหวยสิ ซึ่งเธอก็พูดไปอย่างนั้น แล้วก็ไปถามลูกว่าจะซื้อเลขอะไรดี ซึ่งในงวดนั้นเป็รงวดวันที่ 1 ก.ย. 2566 โดยลูกบอกให้ซื้อ 12 และเตียงที่ลูกนอน 19 แล้วเดินไปบอกคนนั้นคนนี้ซื้อ บอกยันพยาบาล จากนั้นก็หลับไปสักพักเพราะความเพลีย กระทั่งพี่เตียงตรงข้ามปลุกบอกว่าถูกหวย ซึ่งเธอก็ตกใจที่พูดไปเมื่อเช้าเขาให้จริงๆ

เช้ามืดวันต่อมาเลยชวนลูกไปใส่บาตรทำบุญกัน เธอจึงขออีกว่า ถ้าตามีอยู่จริงขอให้น้ำที่ขังในปอดหลานคนนี้หายไปเยอะๆ เพราะถ้าหลานได้เจาะปอด 80% จะเสียและต้องผ่าเอาปอดทิ้ง ถ้าช่วยได้จะใส่บาตรให้อีก 1 ครั้ง ซึ่งเธอก็มีความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

 

พอวันที่ 4 หมอขนอุปกรณ์อัลตร้าซาวด์ลูกชาย หมอก็ตกใจอุทานขึ้นว่า เป็นไปได้ยังไง เมื่อไม่กี่วันที่แล้วน้ำในปอดยังอยู่เลย พอมาวันนี้ น้ำในปอดลดเหลือ 0.25 เหลือเพียงแค่เส้นเล็กๆ หมอตกใจและมองหน้ากัน ก่อนที่จะยิ้มแล้วลูบหัวลูกชายเธอ ใกล้จะได้กลับบ้านแล้วนะ พอวันที่ 6 ตอนเช้าหมอที่อยู่เวรบอกว่า แม่ต้องนอนรอถึงวันที่ 12 นะคะ เพื่อรอตรวจร่างกายอย่างละเอียด จากนั้นก็พาลูกกลับมาที่เตียง ก่อนจะหอบผ้าไปซัก พอกลับมาลูกก็บอกว่า หมอให้กลับบ้านได้แล้ว ก่อนจะกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน

ทั้งนี้ คุณเอ๋ บอกว่าไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่เห็นวิญญาณ ยังมีน้องเตียงตรงข้ามที่ใส่เครื่องช่วยหายใจบอกว่า "ผมเห็นผี" อย่างไรก็ตามประสบการณ์เหนือธรรมชาติหรือสิ่งลี้ลับ ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล