- 18 ต.ค. 2566
คปท. เอาจริง ประกาศบุกถึงเตียงชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลังยื่นหนังสือกระทรวงยุติธรรม 2 มาตรฐานดูแล "ทักษิณ" จี้ส่งกลับเข้าเรือนจำทันที
18 ต.ค.66 เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้พิจารณาทบทวนเรื่องการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องขังคดีทุจริต ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เสมือนเป็นการมอบสิทธิพิเศษแก่นายทักษิณให้เหนือกว่าผู้ต้องขังรายอื่น เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมเพื่อดูแลผู้ต้องขังเพียงรายเดียว
โดย นายพิชิต ชัยมงคล ตัวแทน คปท. กล่าวยืนยันเจตนารมณ์ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
1.ต้องนำตัวนายทักษิณกลับเข้าเรือนจำโดยทันที
2.ขอคัดค้านการขยายเวลารักษาตัวของนายทักษิณภายนอกเรือนจำ ซึ่งจะครบ 60 วันในวันที่ 22 ตุลาคม 2566 นี้ เพราะกระทรวงยุติธรรมไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้สังคมเชื่อได้ว่าในทักษิณป่วยจริงและตนเองเชื่อว่าเป็นการจัดฉากครั้งใหญ่
3.ขอเรียกร้องให้องค์กรสิทธิมนุษยชนภายนอก เข้าไปสังเกตอาการป่วยของนายทักษิณที่โรงพยาบาล เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่านายทักษิณอยู่ในอาการป่วยจริง และมีความจำเป็นถึงขั้นต้องรักษาตัวภายนอกเรือนจำ
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ยึดหลักปฏิบัติกับนายทักษิณ เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติกับนายเปรมชัย กรรณสูต อดีตผู้ต้องหาฆ่าเสือดำ ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้รักษาตัวภายนอกเรือนจำ
ซึ่งหากมีการขยายเวลาการรักษาตัวของนายทักษิณต่อไปอีก ซึ่งเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงยุติธรรมในการพิจารณา กลุ่มคปท.จะถือว่ารู้เห็นเป็นใจให้อภิสิทธิ์กับนายทักษิณ กลุ่มคปท. ก็จะยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวโทษปลัดกระทรวงยุติธรรมเพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ยังขอฝากถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ อยากให้กลับมารับโทษ ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถูกต้องเช่นเดียวกัน
ขณะที่นายนัสเซอร์ ยีหมะ ตัวแทน คปท. ยังประกาศด้วยว่า หากกระทรวงยุติธรรมยังไม่ให้คำตอบถึงความจำเป็นในการรักษาตัวของนายทักษิณภายในวันอาทิตย์ ที่ 22 ตุลาคมนี้ ทางกลุ่ม คปท. จะจัดกิจกรรมทวงถามความเป็นจริง ด้วยการบุกขึ้นไปที่ชั้น 14 ซึ่งเป็นห้องพักของนายทักษิณภายในโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจสอบว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ และมีอาการหนักเพียงใด โดยยืนยันว่านี่ไม่ใช่คำขู่ แต่ต้องการให้กระทรวงยุติธรรมให้คำตอบที่สังคมกำลังตั้งคำถาม และขออย่าหนีหน้าประชาชน
ด้าน นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข (ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม) เป็นตัวแทนรับเรื่อง ระบุว่าในฐานะตัวแทนกระทรวงยุติธรรม ไม่สามารถพิจารณาหรือระบุได้ว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมที่ถูกร้องเรียนนั้นปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง หรือมีมลทินหรือไม่ ตนเองจำเป็นต้องนำเอกสารคำร้องทุกข์เสนอต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกระทรวงยุติธรรมให้มีการพิจารณาตามขั้นตอน จากนั้นจึงจะนำมาแจ้งผลให้กับผู้ที่มาร้องเรียน