รวบหนุ่มขนยาลงใต้ ยึดของกลางบิ๊กล็อต เตรียมส่งขาย นทท.ต่างชาติ

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1 พ.ต.ท.มนพร ลิขิตมานนท์ พ.ต.ท.ปรีชา อุไรพันธ์ พ.ต.ท.ณัฐพล คนหลัก รอง ผกก.1 บก.ทท.1 รอง ผกก.1 บก.ทท.1 พ.ต.ท.นิมิตร จรรยาลักษณ์ สว.กก.1 นำกำลังชุดสืบสวน บก.ทท.1 และ บก.ตม.1 จับกุมนายวิพากษ์หรือ อ๊อฟ โพธิ์นาง อายุ 35 ปี พร้อมด้วยของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีเขียวอีกชั้นหนึ่ง  มีจำนวนทั้งสิ้น 50 ถุง รวมน้ำหนักประมาณ 66 กิโลกรัม

 

 

นอกจากนี้ได้นำหมายค้นได้นำหมายค้นของศาลอาญาธนบุรีที่ 552/2566 ลงวันที่ 27 ต.ค.66 เข้าทำการตรวจค้นห้องเลขที่ 402 อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซอยสะแกงาม 5 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เข้าตรวจยึดยาเสพติดของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท(คีตามีน) จำนวน 48.715 กิโลกรัม, ยาอี 1,057 เม็ด ,ซองสีชมพู ยี่ห้อ CHARMAR (ซึ่งเชื่อว่าเป็นแฮปปี้ วอเตอร์) 72 ซอง, FRIMIN แผงสีเขียว จำนวน 70 เม็ด และ ซองสีดำ จำนวน 5 ซอง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยว 1 และ บก.ตม 1 ร่วมกันสืบสวนหาข่าว จนพบเบาะแสว่า มีขบวนการขนยาเสพติด ลงไปภาคใต้เพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยใช้พื้นที่กรุงเทพฯเป็นสถานที่พักยาเสพติดก่อนลำเลียงลงไปยังพื้นที่ภาคใต้ จากการสืบสวนพบว่ามีการขนยาเสพติดคีตามีน ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ตามสถานบันเทิง และจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่อมาจึงทำการวางแผนปิดล้อมตรวจค้น

 

 

กระทั่งวันที่ 26 ต.ค.สามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ พร้อมของกลาง ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เพื่อเข้าค้นบ้านแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 ก่อนพบของกลางจำนวนมาก 

จากการสอบสวนนายอ๊อฟ ให้การว่าตนมีหน้าที่ รับขนยาเสพติดของกลางตามคำสั่งของนายจ้าง แต่ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลนายจ้าง โดยทราบเพียงว่ายาเสพติด ดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังภาคใต้อีกทอดหนึ่ง โดยตนจะมีหน้าที่นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ และจะมีผู้มารับช่วงต่อไปยังภาคใต้ ส่วนใครเป็นผู้ว่าจ้าง หรือผู้ที่มารับยาของกลางนั้นไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะ ติดต่อกันผ่านแอปฯไลน์เท่านั้น และตนเคยขนยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก ยาบ้า ครั้งนี้ยาเค (คีตามีน ) นอกจากนี้ยาเสพติดดังกล่าวจะถูกนำไปส่งยังปลายทางภาคใต้เพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะขายให้ชาวต่างชาติจำนวนมาก 

 

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า "มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นการกระทำเพื่อการค้าที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน" ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน. เทียนทะเล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป