รวบคาถนน หญิงวัย40ปี ใช้ป้ายทะเบียนรถปลอม ป้ายภาษีก็ปลอม

รวบหญิงวัย40ปี ใช้ป้ายทะเบียนรถปลอม และป้ายแสดงการชำระภาษีประจำปีปลอม ตำรวจจับกุมได้ที่ ถนนพหลโยธิน จ.นครสวรรค์

   ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.)   จับกุม นส.ศศิยาพัชร อายุ 40 ปี  กระทำผิดฐาน ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนพหลโยธิน ทล.1 กม.357 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ 


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พบว่ารถยนต์เก๋งยี่ห้อ NISSAN สีดำ กระทำความผิดกฎจราจร โดยขับขี่รถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลรถยนต์หมายเลขทะเบียนดังกล่าว จากกล้องตรวจจับการกระทำความผิดจาก “ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย”Suspect Vehicle Command Center(SVCC) พบว่าสีและยี่ห้อไปตรงกับรถคันอื่น

รวบคาถนน หญิงวัย40ปี ใช้ป้ายทะเบียนรถปลอม ป้ายภาษีก็ปลอม

พบว่ามีรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวสวมทะเบียนกำลังจะวิ่งผ่านจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจสอบและติดตามรถคันดังกล่าว พบว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ เป็นป้ายปลอมทั้งแผ่นหน้าและแผ่นหลัง และแผ่นป้ายแสดงการชำระภาษีประจำปีเป็นเอกสารปลอม ซึ่งไม่ได้มาจากที่กรมการขนส่งออกให้ โดยแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว ที่ติดตรึงไว้ที่ด้านหน้าและด้านหลังตัวรถ และแผ่นป้ายแสดงการชำระภาษีที่ติดไว้บริเวณกระจกหน้าด้านในตัวรถนั้น กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง 

 


จากการสอบถาม นส.ศศิยาพัชรฯ ให้การว่าได้ติดต่อซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากเพจในเฟซบุ๊ค เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 ในราคา 65,000 บาท โดยการชำระเงินสด และมีการนัดส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าวกันที่จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้หญิงไม่ทราบชื่อเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาส่งมอบให้และเป็นผู้รับสดเงินไป  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา นส.ศศิยาพัชร  แล้วทำการจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบข้อมูลรถยนต์คันดังกล่าว มีข้อมูลการค้างชำระค่างวด จำนวน 15 งวด งวดละ 5,534 บาท

รวบคาถนน หญิงวัย40ปี ใช้ป้ายทะเบียนรถปลอม ป้ายภาษีก็ปลอม

ซึ่งได้ซื้อมาจากเต้นท์รถมือสอง โดยหลังจากซื้อมาได้ให้นายกอล์ฟ ซึ่งเป็นญาติของตนนำรถคันดังกล่าวไปใช้ โดยนายกอล์ฟ บอกกับตนว่าจะเป็นผู้ชำระค่างวดเอง กระทั่งต่อมา บริษัทไฟแนนซ์ ได้ยื่นฟ้องนายธีระพงษ์ฯ เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวค้างชำระค่างวดถึง 15 งวด ซึ่งนายธีระพงษ์ฯ ไม่สามารถนำรถคันดังกล่าวมาส่งคืนให้กับไฟแนนซ์ได้ และก็ไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวไปอยู่กับใครที่ใด ซึ่งตนก็พยายามติดตามหารถคันนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครสวรรค์สามารถจับกุมและตรวจยึดรถคันนี้ไว้ได้