- 09 พ.ย. 2566
ลูกชาย 7 ขวบนั่งรถทัวร์เข้า กทม. เพื่อให้ได้กอดแม่สักครั้งในห้องผู้ต้องกัก หลังต้องพลัดพรากเกือบ 2 เดือน เหตุแม่เป็นชาวลื้อ สัญชาติลาว ถูกจับเพราะวีซ่าหมดอายุ
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2566 เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์ข้อความชวนบีบหัวใจชาวเน็ตทั้งโซเชียล โดยระบุว่า "วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เป็นวันที่เด็กชายวัย 7 ขวบคนหนึ่ง ตื่นแต่เช้าตรู่ลุกขึ้นแต่งตัวนั่งรถทัวร์ข้ามจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ได้กอดแม่สักครั้ง หลังต้องพรากกันเกือบสองเดือน เด็กชายได้เจอแม่ในห้องเยี่ยมผู้ต้องกัก แม่แกะขนมที่ลูกชายถือติดมือมาให้กิน ก่อนถามไถ่ลูกชายว่า
"ตอนที่พ่อต้องไปทำงานขับรถบรรทุก ลูกอาบน้ำแปรงฟันเองได้มั้ย ลูกได้กินข้าวบ้างมั้ย มีเงินพอไปโรงเรียนหรือเปล่า"
เด็กชายพยักหน้าเบาๆ ตอบรับ พร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เราต่างรู้ดีว่าเด็กในวัยแค่ 7 ขวบ แม้จะพอกินข้าวอาบน้ำเองได้ แต่ยังเล็กเกินไปหากต้องขาดแม่คอยดูแล
ทั้งคู่ใช้เวลาพูดคุยกัน จนช่วงที่ต้องบอกลาดำเนินมาถึง เด็กชายยื่นขนมที่เหลือของตัวเองให้แม่ไว้ เพราะรู้ว่าแม่ยังไม่ได้กินข้าว ก่อนกอดลาแม่ และให้สัญญาว่า จะเป็นเด็กดีกลับไปรอที่บ้าน
รอว่าสักวันหนึ่งแม่จะกลับมาหา มาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า และทำเมนูโปรด กระเพราหมูแสนอร่อย ให้เด็กชายได้กินอิ่มไปจนโต
แม่ของเด็กชายวัย 7 ขวย ชื่อแม่แพง เป็นหญิงสาวชาวลื้อ สัญชาติลาว ที่พบรักกับชายไทย ถูกจับอยู่ที่ ตม. มาร่วม 2 เดือน เพราะวีซ่าหมดอายุ (Overstay) และทางการเตรียมผลักดันออกนอกประเทศพร้อมติด Blacklist 10 ปี อ่านเรื่องราวของแม่แพง (คลิกอ่านที่นี่)
โครงการคลินิกกฎหมายมูลนิธิกระจกเงา ดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวนี้ เราทำหนังสือขอประกันตัวจาก ตม.สวนพลู ให้แม่ได้มีโอกาสกลับไปเลี้ยงดูลูกชายมาแล้วสองครั้ง
ครั้งแรกหนังสือยื่นขอประกันตัว ถูกปฏิเสธ เนื่องจากการขอประกันตามเหตุสิทธิมนุษยชนของแม่และเด็กไม่เคยมีแนวปฏิบัติมาก่อน เธอจึงยังไม่ได้รับการประกันตัวและคาดว่าในครั้งที่สองอาจถูกปฏิเสธเช่นกัน
ในวันพรุ่งนี้โครงการคลินิกกฎหมาย จึงจะดำเนินการยื่นคำฟ้องขอศาลปกครองคุ้มครองเพื่อให้แม่ลูกได้อยู่ด้วยกันเป็นกระบวนการ ที่อาจเป็นอีกหนึ่งความหวังของเด็กชายและครอบครัว"
ขอบคุณ FB : มูลนิธิกระจกเงา