- 19 พ.ย. 2566
พ่อแม่น้องม่อน เดินหน้าขอความยุติธรรมให้ลูกชาย หลังไปเข้าค่ายแล้วจมน้ำเสียชีวิตปริศนา เพื่อนลูก - ครูฝึกให้การไม่ตรงกัน
พ่อแม่เลื่อนเผา "น้องม่อน" ไม่มีกำหนด จนกว่าลูกชายจะได้รับความยุติธรรม : ติดตามกันอย่างต่อเนื่องกับกรณีของ "น้องม่อน" ลูกชายเจ้าของเพจไมกี้จอมป่วน เที่สียชีวิตจากการจมน้ำในกิจกรรมเข้าค่ายกับทางโรงเรียน ที่ค่ายแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี จนทำให้ครอบครัวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กร้องขอความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอยากให้โรงเรียนหยุดกิจกรรมแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ก่อนหน้านี้ แม่น้องม่อนได้โพสต์ว่าผ่านไป 4 วันแล้วทางโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประมาทครั้งนี้งไม่มีความรับผิดชอบ อะไรใดๆ กับชีวิตน้องม่อนเลย พร้อมทั้งบอกว่า พ่อแม่จะตามหาความยุติธรรม และความรับผิดชอบต่อชีวิตของน้องม่อนให้ถึงที่สุด
ล่าสุดพ่อนนท์ และ แม่นา พ่อแม่ของน้องม่อนระบุว่า จะยังไม่ฌาปนกิจ หรือ เผาร่างลูกชายถ้าน้องม่อนยังไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างที่สมควรจะได้ ในขณะทางด้านคดีคุณพ่อบอกว่า พ่อจะไปกับทนายความ เพื่อแจ้งความ แต่จะแจ้งความใครบ้างยังต้องคุยกับทนายอีกที
ตอนทราบเรื่องใหม่ๆ พ่อนนท์เล่าว่า การไปเข้าค่าย มีนักเรียนเข้าร่วม 40-50 คน แต่มีคนดูแลเพียง 5 คน ก่อนเกิดเหตุก็มีลางสังหรณ์ คือ เจ้าไมกี้ สุนัขพันธุ์โกลเด้นที่น้องม่อนเลี้ยงเอาไว้ เกิดเห่าหอน วิ่งไปทั่วบ้านแบบผิดปกติ ก่อนที่จะมีโทรศัพท์แจ้งมาว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้ว ที่สำคัญคือ เพื่อนกับครูฝึก พูดไม่ตรงกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพื่อนบอกว่า วันเกิดเหตุวิทยาลัยพานักศึกษาไป 40-50 คน มีครูฝึก 5 คน ไปเล่นน้ำตกกันเพื่อผ่อนคลายในวันสุดท้ายของการเข้าค่าย จากนั้นก็สั่งให้ไปล้างตัว โดยจุดที่น้องม่อนจมน้ำ เป็นจุดที่มีคนเสียชีวิตบ่อยมาก และไม่มีใครรู้ว่าจุดนั้นลึกหรือไม่เพราะไม่มีใครแจ้งเตือน มีแค่เจ้าหน้าที่บอกว่า อย่าไปเล่นไกล
ส่วนน้องม่อน ว่ายน้ำไม่เป็น ถ้าน้องรู้ว่าน้ำมันลึกคงไม่เล่นแน่ ตอนที่ลงไปน้องเกิดลื่นบวกกับน้ำลึก ทำให้น้องจมน้ำ เพื่อนๆ ก็พยายามตะโกนเรียกครูฝึกให้มาช่วย ส่วนครูฝึกก็ตะคอกกลับมาว่า อย่าไปเล่น ไม่เชื่อว่ามีเด็กจมน้ำ
ทั้งนี้ครูฝึก เล่าว่า ครูฝึกเป่านกหวีดเตือนแล้วอย่าไปเล่นน้ำ เรียกให้ขึ้นมา แล้วก็เป็นคนช่วยน้องขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งมันตรงข้ามกับสิ่งที่เพื่อนเล่า คือไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีการเข้าไปช่วย ตนอยากจะรู้ความจริงเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร