- 20 พ.ย. 2566
น้องพิมพ์ เปิดใจ นาทีโดนมนุษย์ลุงด่า ชี้ไม่ใช่รายแรก แถมวีรกรรมไม่ธรรมดา คนแถวนั้นรู้จักกันดี ก่อนฝากไว้เป็นบทเรียนอย่าไปทำกับใครอีก ...
กลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์เข้ามาวิพากษ์วิจาร์กันสนั่นหลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก พิมมี่ คีย์บอร์ด Pimmy Keyboard ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ได้เผยแพร่คลิปของตน ขณะกำลังนั่งเล่นดนตรีเปิดหมวกกับรุ่นพี่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา ก่อนต่อมาในคลิปจะปรากฏภาพชายสูงวัยเข้ามาโวยวายต่อว่าให้เบาเสียงเนื่องจากให้เหตุผลว่าสร้างความรบกวนเพราะตนอาศัยอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งนี้
โดยทาง เฟซบุ๊ก พิมมี่ คีย์บอร์ด Pimmy Keyboard ยังระบุข้อความเอาไว้ว่า... ความจริงมันรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยจนแทบจะกินน้ำตา ไม่รู้เลยว่ามันปล่อยออกมากี่หยด เราสุดสู้กับงานแสดงดนตรีเปิดหมวกอย่างจริงจังมากกก เสียสละ เสียเวลากับเรื่องที่ดี แต่อย่าให้เสียอะไรไปมากกว่านั้นเลยทุ่มเทเพื่อความสุข ชีวิตต้องดิ้นรนแต่บางครั้งก็รู้สึกท้อมากมาย อยากจะโอบกอดตัวเองเอาไว้ให้แน่นเลย #นักดนตรีสู้ชีวิต #จากใจผู้หญิงนักดนตรีตัวเล็กๆคนนึง
ล่าสุด 20 พ.ย. ไทยนิวส์ได้สัมภาษณ์ น้องพิมพ์ สาวผู้พิการทางสายตาที่ปรากฏภาพอยู่ในคลิป โดยเธอเปิดใจว่า วันนั้นตัวน้องพิมพ์กับรุ่นพี่ต่างสาขาได้ไปเปิดหมวกกันที่ห้างแห่งหนึ่งแถวรัชดาพวกน้องพิมพ์ก็เล่นดนตรีกันปกติระดับเสียงของเพลงก็ดังแบบนี้ปกติ แล้วก็มีคุณลุงท่านหนึ่งเข้ามาต่อว่า ทำไมเล่นเสียงดังเบาๆหน่อย ซึ่งตัวน้องพิมพ์เองก็ได้แต่งงว่าปกติตลาดเวลาเปิดเพลงมันก็เสียงดังแบบนี้ไม่ใช่หรอ ตัวน้องพิมพ์ยืนยันว่าตนไม่ได้เล่นดนตรีเสียงดังมาก
พอมารอบสองคุณลุงคนเดิมก็มาโวยวายอีกครั้งทีนี้คนในตลาดก็เข้าไปช่วยแล้วก็ปลอบใจน้องว่าจริงๆแล้วตัวน้องพิมพ์ไม่ผิด การเปิดหมวกเล่นดนตรีมันเป็นการสร้างความสุขเป็นการหารายได้แล้วก็มอบความสุขให้กับคนที่อยู่ในตลาด โดยน้องพิมพ์ยังบอกอีกว่าบางคนอาจจะมองว่าคนสูงอายุอาจต้องการพักผ่อน แต่น้องพิมพ์ยืนยันว่าตนไม่ได้เล่นเสียงดังและความเป็นตลาดมันมีเสียงดังอยู่แล้วขนาดเบาเต็มที่แล้วคุณลุงก็ยังไม่พอใจบอกให้เบาอีก
ซึ่งตอนนั้นตัวน้องพิมพ์เองก็ทำตัวไม่ถูกเหตุการณ์เกิดช่วงทุ่มกว่าๆและน้องพิมพ์ได้จองเข้ามาขอเล่นอย่างถูกต้อง น้องพิมยังเผยอีกว่าคนแถวนั้นเล่าให้ฟังคุณลุงท่านนี้มักจะมีปัญหากับใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ในห้างหรือถังดับเพลิงในห้างแม้แต่คนมาเล่นเปิดหมวกก็เจอแบบนี้เหมือนกัน ส่วนตัวน้องพิมพ์กล่าวต่ออีกว่าหากมันเป็นการรบกวนก็ต้องขอโทษคุณลุงที่ไปเปิดลำโพงเสียงดังรบกวนคุณลุง แต่สิ่งที่ทำน้องพิมพ์และรุ่นพี่ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งน้องพิมพ์ทิ้งท้ายไว้ว่าหากคุณลุงได้มาเจอข่าวนี้ขอให้คุณลุงนำไปเป็นบทเรียนว่าควรพูดจากันดีๆเพราะอีกฝ่ายอาจจะรู้สึกแย่ไปเลยก็ได้ ส่วนตัวน้องพิมพ์ไม่ได้อยากจะว่าอะไรคุณลุงแต่การพูดดีๆใส่กันเหตุการณ์มันจะดีขึ้นกว่านี้พร้อมกับให้คุณลุงจำไว้เป็นบทเรียนจะได้ไม่ต้องทำกับใครอีก