- 23 พ.ย. 2566
นายชนัญชิต แสงจันทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว คดี ลั่นไกใส่เด็กอุเทน และ ครูเจี๊ยบ เผย ทุกคนที่โดนจับเป็นแพะ
วันนี้ (23 พ.ย.66) เวลา 12.00 น. นายชนัญชิต แสงจันทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว ติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องหา โดยอ้างว่า ตนเป็นเพื่อนรุ่นพี่กับหนึ่งใน 7 ผู้ต้องหาตั้งแต่เด็ก ส่วนผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ก็เป็นการรู้จักผ่านเพื่อนอีกทอด ซึ่งตนเรียนวิศวะที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต และเคยติวหนังสือร่วมกลับกลุ่มผู้ต้องหาอยู่บ่อยครั้ง จึงมีความสนิทสนมกัน พร้อมกับยืนยันว่าทุกคนที่ถูกจับมานั้นเป็นแพะในคดีนี้ มั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของนักศึกษาปทุมวันอย่างแน่นอน โดยเชื่อว่าผู้ก่อเหตุที่แท้จริงอาจเป็นกลุ่มอริต่างสถาบันที่เคยมีปัญหาบาดหมางกันมาก่อน เนื่องจากในอดีตนักศึกษาอุเทนถวายเคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ หรือช่างอุตฯ ซึ่งตนมั่นใจพยานหลักฐานที่มีอยู่ และจะไม่พูดถึงหลักฐานชิ้นนั้น ขอให้เอาหลักฐานดังกล่าวไปต่อสู้กันในชั้นศาล
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า ไม่รู้จักกับนายวิน มือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด รวมทั้งนายเลาะคนขี่รถจักรยานยนต์ และคนสั่งการ รวมไปถึงนายพฤฒิพลที่เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาอุเทนถวายเสียชีวิตที่หน้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตนก็ไม่รู้จักมาก่อน
นายชนัญชิต เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนในห้องควบคุมตัว เพื่อนไม่ได้มีความกังวลใจอะไร เพราะเพื่อนก็ยืนยันว่าพวกตนไม่ได้เป็นคนทำ ทั้งนี้ตอนได้เตรียมหลักฐานไว้ต่อสู้ในชั้นศาล แต่ขอไม่เปิดเผยว่าหลักฐานชิ้นนั้นเป็นอะไร
นอกจากนี้ ตนได้เห็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่สื่อมวลชนเผยแพร่แล้ว มีความเห็นว่า ในคลิปเห็นเพียงแค่ลักษณะท่าทาง ไม่เห็นหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นการทำให้เข้าใจผิดได้ แต่ตนก็ไม่อยากชี้ชัดว่าคนในคลิปเป็นใครเพราะตนก็ไม่รู้ แต่มั่นใจว่าไม่ใช่เพื่อนของตนอย่างแน่นอน พร้อมกับยืนยันคำเดิมว่าเพื่อนของตนเป็นแพะ
ทั้งนี้ ตนเคยศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น และได้ย้ายออกมาเรียนที่ย่านรังสิต ถึงไม่ทราบเรื่องไลน์กลุ่มที่ปรากฏในสื่อ และเรื่องเงินสนับสนุนกองกลางไว้สำหรับต่อสู้คดี เพราะตลอด 1 ปีที่ตนเคยเรียนนั้นตนกับเพื่อนที่เป็นผู้ต้องหาตั้งใจเรียนอย่างเดียว
ขณะที่ พ่อแม่ของนายธนากร พันทองคำ หนึ่งในผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยมที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ลูกชายของตนเองเคยเรียนที่อุเทนถวาย แต่ขณะนี้ไม่ได้เรียนแล้ว และกำลังทำงาน โดยบอกเหตุผลกับครอบครัวขอย้ายมาอยู่ร่วมกันกับกลุ่มเพื่อน ว่าบ้านใกล้ที่ทำงาน ซึ่งปกติแล้วลูกชายเป็นคนพูดง่าย อยู่กับครอบครัวไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง แต่ตนเองไม่ทราบว่าเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนลูกชายเป็นอย่างไร ในวันนี้แค่อยากมาให้ลูกชายเห็นหน้า ด้วยความเป็นห่วงในฐานะพ่อและแม่ ส่วนเรื่องของคดีความ ลูกจะถูกหรือผิดนั้น ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย