"นนทิ์คนตาย" ชายผู้ไม่กลัวอาถรรพ์ ความคิดเปลี่ยนหลังได้ล้างป่าช้า

"นนทิ์คนตาย" ชายผู้ไม่กลัวอาถรรพ์ ความคิดเปลี่ยนหลังได้ล้างป่าช้า : ทำเอาชาวเน็ตต่างยกให้เป็นอีกหนึ่งตำนานไปแล้วสำหรับ เจ้าของเฟซบุ๊ก Nonts Kongchaw หรือ นนทิ์คนตาย ที่ในวันเกิดปีนี้ 30 นี้ เขาได้จัดงานวันเกิดที่แปลกแหวกแนว และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครกล้าทำตามอีกด้วย เพราะ นนทิ์คนตาย ได้จัดในรูปแบบของงานศพ ที่สมจริงที่สุด เหลือเพียงอย่างเดียวคือ การเผาคนไปจริงๆ 

 

โดยก่อนหน้านี้ นนทิ์คนตาย ได้เปิดใจให้ทีมข่าวไทยนิวส์ฟังว่า ไอเดียสำหรับปาร์ตี้วันเกิดครั้งนี้มาจากการที่ตนต้องการสะท้อนให้หลายๆ คนต่างใช้ชีวิตอย่างมีสติตลอดเวลา ไม่ประมาทอยู่เสมอ และอีกอย่างก็คือ ตนเองเป็นคนชื่นชอบอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องดาร์กๆ อยู่แล้ว 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดใจ "นนทิ์คนตาย" จัดงานปาร์ตี้งานวันเกิดในธีมงานศพแบบสมจริง เหลืออย่างเดียวคือยังไม่เผาคนไปจริงๆ 

แต่การจัดงานแบบนี้ก็แอบมีชาวเน็ตอีกฝ่ายวังกลว่า นี่จะเป็นลางไม่ดีหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้อความตายในงานมงคล "นนทิ์คนตาย" ได้อธิบายให้ทีมข่าวฟังอีกว่า ตนไม่ได้เชื่อเรื่องราวลี้ลับเท่าใดนัก แต่ตนจะเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ อีกอย่างคือ ตนได้จัดวันเกิดในลักษณะนี้มาตั้งแต่อายุ 25 ปี แค่ตอนนั้นไม่ได้สมจริงแบบนี้ แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับชีวิต

 

"หลังจากที่จัดงานศพในงานวันเกิดแล้วชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรเลวร้ายเลยครับ กลับกันมันดีขึ้นด้วยซ้ำ จริงๆ ส่วนตัว นนทิ์ ไม่ได้เชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่อยู่แล้ว จะเชื่อสิ่งที่พิสูจน์ได้มากกว่า แต่ว่ามันจะเป็นลางไม่ดีก็คิดว่ามันก็น่าจะเกิดกับเราแค่คนเดียว แต่อย่างน้อยเราก็ทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความตายและเห็นคุณค่าของชีวิต" 

 

นอกจากนี้ "นนทิ์คนตาย" ยังได้อธิบายแบบติดตลกอีกว่า ส่วนในครอบครัวไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นเป็นเรื่องปกติแล้ว เนื่องจากจัดงานวันเกิดแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 25 ปี อีกทั้งพรีเวดดิ้งของตนก็ยังมีที่ทำได้แบบนี้มาแล้ว แต่ตอนนี้ตนอย่างโสดอยู่ เพราะเคยลองทักไปจีบผู้หญิงแล้ว แต่พอบอกว่า อยากให้คุณเป็นศพแรกของผมจากนั้นเขาก็ไม่คุยอีกเลย

 

อีกทั้ง "นนทิ์คนตาย" ยังทิ้งท้ายอีกว่า ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ซึ่งหลายคนมักจะมองว่า ความตายหรืองานศพเป็นสิ่งอัปมงคล แต่ตนมองว่าถ้างานศพเป็นสิ่งอัปมงคลแล้วเราจะจัดงานศพให้กับคนที่เรารักในวันที่เขาจากไปทำไม และความตายเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นกับทุกคน ตนจึงมองว่างานศพมันเป็นงานแห่งความรักซะมากกว่า