พบรังกบดานแก๊งขอทานจีน แฉภาพควักเงินปึกจ่ายค่าอาหาร พักโรงแรมสุดชิล

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2566 ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้ลงพื้นที่ย่านสถานีรถไฟหัวลำโพง กทม. หลังได้ข้อมูลจากพลเมืองดี ส่งภาพกลุ่มขอทานที่มีลักษณะคล้ายกับแก๊งขอทานชาวจีน ร่างกายพิการ ใบหน้ามีแผลคล้ายโดนไฟไหม้ นั่งทานข้าวดื่มสุราและนั่งนับเงินที่ร้านอาหารย่านหัวลำโพง พร้อมกับได้ข้อมูลว่าแหล่งที่พักคือบริเวณใกล้เคียงร้านอาหาร

 

โดย กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า เนื่องจากว่ามีพลเมืองดีส่งภาพหนึ่งในขอทานที่เคยถูกจับไปแล้ว นั่งปาร์ตี้สังสรรค์กินข้าวกับกลุ่มเพื่อนอีก 5 คน ที่บริเวณร้านอาหารใกล้เคียงกับสถานีรถไฟหัวลำโพง โดยมีมูลค่าอาหารอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท และบนโต๊ะอาหารพบว่ามีทั้งเหล้าและเบียร์หลายขวด รวมถึงบนโต๊ะมีการสูบบุหรี่ท่าทางไม่เหมือนกลุ่มขอทาน ตนจึงลงพื้นที่มาเพื่อพูดคุยและขอข้อมูลกับทางร้านอาหาร

จากการพูดคุย ทราบว่าระหว่างที่กลุ่มขอทานนี้นั่งกินอาหารกัน จะมีคนหนึ่งในกลุ่มที่เป็นผู้ชายที่ดูมีอายุเยอะที่สุดนั่งนับเงิน และจะมีผู้หญิงลักษณะเหมือนเจ๊เป็นผู้เก็บเงิน โดยทั้งสองคนร่างกายสมประกอบ เเขนขาปกติ ซึ่งพนักงานในร้านให้ข้อมูลว่า ตอนนั้นคนที่มีลักษณะใช้เฮียกับเจ๊ได้เงินแบงก์ 20 มาจ่ายค่าอาหารจำนวน 2,000 บาท เเละยังเห็นเงินในกระเป๋าเป็นแบงก์ 1,000 บาทจำนวนมากคาดว่าจะมีถึงหลักแสนบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าบริเวณซอยใกล้เคียงกับสถานีรถไฟหัวลำโพงริมถนนที่จะมุ่งหน้าขึ้นทางด่วนหัวลำโพง เป็นทางเข้าไปที่พักที่กลุ่มขอทานใช้เป็นที่พักโดยที่พักมีราคาคืนละ 300 ถึง 500 บาท ถ้าพัก 1 เดือนมีราคาหลักหมื่น ตนจึงได้เดินทางไปสอบถามขอข้อมูลที่หอพัก แต่ทางผู้ดูแลหอพักปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล

 

จากนี้ตนจึงจะรวบรวมข้อมูลที่ได้ทั้งหมดส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากว่าจากข้อมูลที่ได้มากลุ่มขอทานนี้มีทั้งหมด 6 คน แต่เป็นข่าวและถูกจับไปแล้วเพียง 1 คนคือคนที่แขนขาด ส่วนอีก 5 รายที่นั่งร่วมโต๊ะรวมถึงผู้ที่เป็นคนนับเงินตอนนี้ไม่มีข้อมูลว่าหายไปอยู่ที่ใด

ขณะที่ ทางด้านพนักงานร้านอาหาร  2 คน เปิดเผยว่า ตนเคยเห็นขอทานกลุ่มนี้มานั่งทานอาหารที่ร้านประมาณ 1-2 เดือนก่อน เพียงครั้งเดียว โดยสั่งอาหารที่ร้านมูลค่าหลักพันบาท รวมถึงสั่งเบียร์หลายขวด และมีการซื้อเหล้าจากร้านค้าใกล้เคียงมานั่งทาน นอกจากนี้ตนยังเห็นคนที่พิการมือด้วนนั่งจุดบุหรี่สูบอีกด้วย เมื่อถึงเวลาคิดเงินตนก็แปลกใจเนื่องจากว่าคนบนโต๊ะมีการนับแบงก์ 20 จำนวน 2,000 บาทจ่ายเป็นค่าอาหาร

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนเคยเห็นกลุ่มขอทานเหล่านี้มักจะนั่งรถสามล้อมาลงที่บริเวณนี้ เพื่อเข้าที่พักที่อยู่ใกล้ๆ โดยก่อนหน้านี้เคยเอาเหรียญมาฝากให้ที่ร้านของตนแลกเป็นแบงก์ แต่ล่าสุดช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่พบกลุ่มคนเหล่านี้แล้ว จะพบเพียงแค่ขอทาน 1 รายที่มือขาด เมื่อประมาณ 4-5 วันก่อน และเพิ่งถูกจับตามที่เป็นข่าว