ล่อซื้อ "สาวหล่อ" ลอบขายซิมม้าเย้ยกฎหมาย รู้ว่าผิดแต่กำไรงามยั่วใจ

ตำรวจไซเบอร์ เปิดยุทธการรวบสาวหล่อลักลอบขายซิมม้าเย้ยกฎหมาย ยึดของกลางได้เป็นหมื่นๆชิ้น เจ้าตัวรับสารภาพรู้ว่าทำผิดแต่กำไรดี

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม  กองกำกับการ 2  กองบังคับการ 4 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำโดย พ.ต.อ.อนุชา  ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 หัวหน้าชุด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นางสาวธรรศกร กิจกุลวศิน หรือฝ้าย อายุ 43 ปี  อยู่บ้านหลังหนึ่งใน ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร พร้อมด้วยของกลาง ซิมโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนแล้วจำนวนหมื่นกว่าซิม (ซิมม้า) และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น C2 สีทอง-ดำ  จำนวน 1 เครื่อง (ใช้สำหรับเปิดใช้ลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เครือข่าย เอไอเอส กับ เครือข่ายทรูและดีแทค )

 

ล่อซื้อ สาวหล่อ เย้ยกฎหมายลอบขายซิมม้า รู้ว่าผิดแต่กำไรงามยั่วใจ

ล่อซื้อ สาวหล่อ เย้ยกฎหมายลอบขายซิมม้า รู้ว่าผิดแต่กำไรงามยั่วใจ

 

 ซึ่งกระทำความผิดฐาน "ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้" 

สถานที่จับกุม  พื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดชุมพร พฤติการณ์ขณะเกิดเหตุ สืบเนื่องจากนโยบาย รัฐบาลสั่งจัดการเด็ดขาด ซิมม้า - บัญชีม้า - เว็บพนันออนไลน์นั้น  พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท จึงได้สั่งการให้มีการปราบปรามการลักลอบขายซิมผีบัญชีม้าเพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพนำไปใช้โทรหลอกลวงประชาชนในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบต่างๆ  บก.สอท.4 

 

ล่อซื้อ สาวหล่อ เย้ยกฎหมายลอบขายซิมม้า รู้ว่าผิดแต่กำไรงามยั่วใจ

 

และเมื่อวันที่ 29 พ.ย.66 พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 เป็นหัวหน้าชุด ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 เข้าจับกุมบุคคลที่ได้ลักลอบขายซิมผี จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมการลักลอบขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก จนสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ( มาตรา 11 ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขายหมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปีหรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ)  ได้ลงโพสต์ขายผ่านแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อจากผู้โพสต์ดังกล่าว จากนั้นได้ตกลงซื้อขายกับสายลับและได้ส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานให้กับสายลับ จากการตรวจสอบซิมที่ได้ล่อซื้อพบว่ามีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ในชื่อของบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่ามาแล้วจริง จึงทำการสืบสวนจนทราบชื่อบุคคลที่ขายซิมดังกล่าวให้สายลับคือ ว่านางสาวธรรศกร กิจกุลวศิน อายุ 43 ปี 

 

ล่อซื้อ สาวหล่อ เย้ยกฎหมายลอบขายซิมม้า รู้ว่าผิดแต่กำไรงามยั่วใจ

 

และเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 )  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้กับนางสาวธรรศกรและตกลงว่าจะส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วให้กับสายลับทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามดูพฤติกรรมจนทราบและแน่ใจว่านางสาวฝ้ายฯ จะนำซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วไปส่งให้สายลับที่ร้านส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร 

จนเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามนางสาวฝ้ายไปจนถึงบริเวณถนนสาธารณะหน้าบ้านหลังหนึ่งใน อ.เมืองชุมพร จังหวัด ชุมพร และประกอบในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบเห็นนางสาวฝ้าย ถือกล่องพัสดุ ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจค้นบุคคลดังกล่าวพบมีซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้จำนวนหมื่นกว่าซิมไว้ในการครอบครอง 

จากการสอบถามนางสาวฝ้าย ให้การรับสารภาพว่าซิมโทรศัพท์ทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบนั้นได้มีการลงทะเบียนซิมแล้วทั้งหมดพร้อมใช้ซึ่งตนเองกำลังจะนำไปส่งให้กับบุคคลที่ได้สั่งซื้อกับตนเองไว้จริงแลนางสาวฝ้ายได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในบ้านของนางสาวฝ้ายฯยังพบซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมส่งอีกจำนวนอีกกว่า๒,๐๐๐ซิม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าต้องถูกจับกุมและแจ้งสิทฺธิตามกฎหมายให้ทราบ  และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร ภ.จว.ชุมพร  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปและจะได้ขยายผลจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป
             
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นางสาวฝ้าย ผู้ต้องหา รับว่าตนเองเป็นผู้ที่โพสต์ขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ในกลุ่มลับในแอพพลิเคชั่น เฟสบุ๊ค และเมื่อมีผู้ที่ติดต่อซื้อซิมโทรศัพท์ ที่ได้ลงทะเบียนแล้วก็ทำการลงทะเบียนซิมเองแล้วขายแต่ถ้ามีจำนวนมากก็จะติดต่อซื้อจากบุคคลที่รู้จักในเฟซบุ๊กอีกที่หนึ่ง ซึ่งจะรับซื้อซิมดังกล่าวมาในราคาซิมละ 35 บาท และจะนำมาขายในกลุ่มลับในราคา 43 บาทได้กำไร ประมาณ  8 บาท ต่อซิม จากการสอบถามนางสาวฝ้าย ตนทราบอยู่แล้วว่าการซื้อขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้เป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ขายได้กำไรดีจึงยอมเสี่ยงทำ