- 07 ธ.ค. 2566
เจ้าของโรงงานเครื่องสำอาง ล่าสุดมีการออกมาชี้แจง เผยชัด โรงงานได้รับอนุญาติถูกต้อง อ้างถูกกลั่นแกล้ง เรื่องเกิดนานแล้ว
จากกรณี น.1 สั่งการสืบนครบาลร่วมกับ อย. บุกทลายโรงงานผิดกฎหมาย ช่วยลูกจ้างสาวเคราะห์ร้ายถูกโรงงานครีมเถื่อนทำร้ายร่างกาย ไม้พายยังคามือ ตามที่รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
(อ่านข่าว ความลับนางฟ้า น.1 บุกโรงงานครีมเถื่อน ลูกจ้างนั่งกวนครีมไม้พายยังคามือ)
ล่าสุดผู้สื่อลงพื้นที่ไปยังซอยสุขสวัสดิ์ 2 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงงานดังกล่าว พบว่าโรงงานดังกล่าวเป็นทาวน์โฮม 2 หลังติดกัน ที่นำมาเปิดใช้เป็นโรงงานผลิตสินค้าคอสเมติก จากนั้นได้พบกับนายฐิติวัชร์ เจ้าของโรงงาน ได้พาทีมข่าวเดินชมจุดต่างๆ ในไลน์การผลิตของโรงงาน ซึ่งอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ แตกต่างจากภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้า และนายฐิติวัชร์ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า โรงงานตนเปิดมา 10 กว่าปีแล้ว ผลิตสินค้าคอสเมติก เช่น แชมพู ครีมนวด สบู่ ครีม ฯลฯ ยอมรับว่าภาพที่ปรากฏออกไปเป็นโรงงานของตนจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพที่นั่งกับพื้นและใส่ชุดทั่วไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำดูไม่เหมาะสมก็ต้องขออภัย และอยากชี้แจงว่าทางโรงงานมีชุดยูนิฟอร์มและระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน แต่เป็นความหละหลวมและบางครั้งเร่งรีบ จึงไม่เคร่งครัดกับพนักงานทำให้สวมใส่ ซึ่งน้อมรับและจะนำไปปรับปรุงแก้ไข
ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ในการผลิต ยืนยันว่าเป็นไปตามมาตรฐาน ส่วนที่ต้องนำผลิตภัณฑ์ใส่กะละมังนำมาวางกับพื้นเป็นขั้นตอนพักผลิตภัณฑ์ เพราะจะต้องผ่านการต้มมาก่อน เราต้องพักให้เย็น และที่ต้องใส่กะละมังพลาสติกเพราะช่วยระบายความร้อนได้เร็วกว่าสแตนเลส และเราเปลี่ยนกะละมังทุกๆ 2 เดือน ที่ผ่านมาทาง อย. ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานโรงงานทุก ๆ สองปี ซึ่งตนได้นำข้อผิดพลาดหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาปรับปรุงโดยตลอด ซึ่งหากทางสังคมมองว่าไม่เหมาะสมตนก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและแก้ไข
และที่มีคลิปปรากฏภาพหนูตกลงไปในกะละมังผลิตภัณฑ์ ภาพนี้เป็นภาพเก่าเมื่อปีที่แล้ว และหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นทางโรงงานได้นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปทิ้งโดยทันทีไม่ได้นำไป บรรจุขายให้กับลูกค้าแต่อย่างใด ตนอยู่ในวงการนี้มานานหลายสิบปี จะไม่นำเรื่องแค่นี้มาทำให้โรงงานเสียชื่อเสียงแน่นอน
ส่วนเรื่องอุบัติเหตุที่มีคนงานได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่าทางโรงงานเข้าไปดูแลตลอด การติดต่อประสานงานพูดคุยกันตลอด และยังบอกผู้บาดเจ็บว่า หากรักษาตัวเสร็จแล้วให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม หรือขาดตกสิ่งไหนให้ติดต่อมาบอกได้ เงินที่จ่ายไปให้ 1500 บาทเป็นการดูแลเบื้องต้น และมีขั้นตอนประสานประกันสังคมให้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายพยาบาลทั้งหมดแล้ว
และเรื่องที่มีการเผยแพร่ออกไป ตนเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิต เพราะเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นเป็นเดือนแล้ว แต่มีสมาชิกในโรงงานคนนึงที่มีปัญหากับโรงงาน ได้พูดกับเพื่อนๆในที่ทำงานว่า จะทำการดิสเครดิตโรงงานและจะให้หน่วยงานมาตรวจสอบ และไปปลุกปั่นผู้บาดเจ็บให้เกิดเรื่องดังกล่าว จึงอยากขอชี้แจงและขอความเป็นธรรมให้บริษัทตนด้วย ยืนยันว่าบริษัทมีใบจดแจ้งถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นโรงงานเถื่อนตามข่าวที่ปรากฏออกไป
ทีมข่าวได้คุยกับคนงานเล่าว่า ตนทำงานที่นี่มาหลายปีก็รู้สึกดี เจ้าของใจดีช่วยเหลือทุกอย่าง แต่ภาพที่ปรากฏเผยแพร่ออกไปยอมรับว่าเป็นความมักง่ายของพนักงานเอง เพราะทางโรงงานมีชุดให้ใส่แต่พนักงานเร่งรีบและอาศัยความสะดวก จึงไม่ได้ใส่ และเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิตโรงงาน เพราะหนึ่งในสมาชิกที่ทำตรงนี้มีปัญหาเรื่องเงินเดือน เพราะลาบ่อย มาสาย เพื่อนคนนั้นจึงบอกกับเพื่อนร่วมงานว่า “เดี๋ยวจะแจ้งหน่วยงานมาตรวจสอบ พวกแกทุกคนเตรียมย้ายของออกได้เลย” หลังจากเค้าออกไปก็ทักมาขอรูปต่างๆ ในโรงงาน และสั่งให้ลบแชท จากนั้นก็เกิดเป็นเรื่องดังกล่าว จึงมั่นใจว่าอดีตคนงานคนนี้มาดิสเครดิตโรงงานแน่นอน