- 08 ธ.ค. 2566
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำคลิปหลักฐานพร้อมเอกสาร ร้อง ปปป.เอาผิดอดีตนักข่าวและเลขาฯ ดีเอสไอ กรรโชกทรัพย์
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 ธ.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำคลิปหลักฐานพร้อมเอกสารการกรรโชกทรัพย์ผู้รับเหมาในการแอบอ้างผู้ใหญ่ในการฝังกลบหมู 161 ตู้ ที่สัตหีบ และ สระแก้ว ให้ดำเนินคดีกับนายมานพ อดีตนักข่าวฯ และนายชาญณรงค์ เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ที่ได้รับการร้องเรียนจากกรมปศุสัตว์ในการฝังหมูโดยมีการเรียกรับเงินจากสายการเดินเรือโดยอ้างนำมาให้กรมปศุสัตว์เป็นค่าฝังกลบ มอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ จังหวัดสระแก้วว่ามีการนำหมูเถื่อน 161 ตู้พื้นที่ของจังหวัดสระแก้วและสัตหีบปรากฏว่ามีการร้องเรียนว่านายชาญณรงค์เลขานุการ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ อดีตร่วมกับนายมานพซึ่งเป็นนักข่าวอิสระ อดีตนักข่าวสำนักหนึ่ง โดยทั้งสองได้มีการเข้าไปแทรกแซง และก็มีการเรียกรับผลประโยชน์และมีการแก้ไขสัญญาผู้รับเหมาที่มีการฝังหมูเถื่อน ในค่ายทหารของอำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี
ซึ่งในคดีนี้ตนก็ได้รับทราบว่าได้มีการร้องเรียนจากเจ้าของสายการเดินเรือ จำนวนมากกว่า 10 สายการเดินเรือว่ามีค่าใช้จ่ายในการฝังกลบหมูแล้วก็จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ทางเจ้าของสายการเดินเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการดำเนินคดีจำนวน 161 ตู้เอาแต่กลับไปให้คนอื่นเช่าได้แต่ต้องมีค่าดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสายการเดินเรือ ซึ่งมูลค่าจำนวนทั้งสิ้น 12 ล้านบาท
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่าตน ทราบจากอธิบดีกรมว่าเงิน 12 ล้านบาททางกรมไม่เคยได้รับเงินจากนายชาญณรงค์หรือผู้ประกอบการจากสายการเดินเรือแต่อย่างใดซึ่งทั้งสิ้นในการที่มีการดำเนินการผู้รับเหมาก็คิดค่าใช้จ่าย 5 ล้าน บาทแล้ว และทางกรมทหารเรือที่สัตหีบให้ทราบว่าให้นายมานพเป็นผู้ดำเนินกับนายชาญณรงค์และวันนี้ก็มีคลิปเสียงที่ทางบริษัทได้มีการบันทึกเสียงของนายมานพซึ่งเป็นตัวแทนของนายชาญณรงค์ แล้วก็มีการบันทึกเสียงนายชาญณรงค์ที่เรื่องราวทั้งหมดและประวัติตามไฟล์วิดีโอที่นำมามอบให้แล้วก็มีหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษให้กรรมการสอบนายชาญณรงค์ในเรื่องที่มีการแทรกแซงเรื่องของการทำลายหมูของกลางจำนวน161 ตู้ แล้วก็มีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการทั้งหมด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป.รับหนังสือและคลิปเสียงดังกล่าวไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป