- 13 ธ.ค. 2566
สนธิญา สวัสดี เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินตรวจสอบที่เป็นธรรม คดีเด็ก 17ปี แจ้งความล่วงละเมิด คุณ สมรักษ์ คำสิงห์
เวลา 10.30 น. ที่ กระทรวงมหาดไทย นายสนธิญา สวัสดี จะเข้ายื่นหนังสือ ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบที่เป็นธรรมในคดีเด็ก 17 ปี แจ้งความ "สมรักษ์" ใน 4 ประเด็น
1.ประเด็นการให้ข้อมูลของเด็ก 17 ปี และกลุ่มเพื่อน ที่เข้าไปในสถานบันเทิง ยื่นบัตรประชาชนเหมือนกันทุกคนหรือไม่
2.กรณีของสถานบันเทิงได้ปฏิบัติไปตามกฎหมาย ปิดภายในที่กำหนดเวลา 02.00 น. หรือไม่อย่างไร
3.ผู้ปกครองปล่อยให้เด็กอายุตำกว่า 18 ปี เข้าไปในสถานบันเทิงได้อย่างไร แสดงถึงความไม่รับผิดชอบต่อผู้ใต้ปกครอง
4.ให้ตรวจสอบการให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงานราชการทุกฝ่าย หากเป็นเท็จให้ดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายอาญา ต่อไป
เพื่อความยุติธรรมของทุกฝ่าย รวมถึงสถานบันเทิง เพื่อให้ความจริงปรากฏ และไม่เป็นไปตามกระแส
คุณ สนธิญา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาในเรื่องของสังคมทั่วไป กรณีน้องอายุ 17 กับคุณ สมรักษ์ คำสิงห์ และสถานบันเทิง จะว่าผมหิวแสงก็ต้องขออนุญาตหิวแสง เพราะว่า สิ่งที่เกิดขึ้นผมได้ติดตามตั้งแต่วันแรก และข่าวสองวันที่ผ่านมาในฐานะ คุณสมรักษ์คำสิงห์เป็นอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก ทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ทำให้คนไทยมีความสุขมาหลายครั้ง ส่วนชีวิตประจำตัวเป็นอย่างไรผมไม่ทราบแต่ ในกรณีนี้นั้นคุณ สมรักษ์ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอยู่แล้ว แต่ทีนี้สมมุติว่ามีคนร้ายเข้าไปยิงในบ้าน แล้วเจ้าของบ้านเข้าไปยิงคนร้ายเสียชีวิต แน่นอนครับคดีอาญาติดคุก แต่กรณีของศาลก็จะวินิจฉัยว่า กรณียิงคนตายนั้นเป็นเหตุสุดวิสัยป้องกันตัว อาจจะหลุดศาลคำร้องได้เฉกเช่นเดียวกับกรณี น้อง 17 กับคุณสมรักษ์คำสิงห์ คดีนี้ผิดจริงแต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง หมายถึงการวินิจฉัยของศาล คดีนี้ก็อาจจะไม่ผิด ก็สุดแต่ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย และถ้าถามว่ากรณีนี้ถึงขั้นไหนเท่าที่ผมตรวจสอบสภ.เมืองขอนแก่น ก็ยังไม่ได้เรียก คุณสมรักษ์ ไปสอบ ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้สอบน้องอายุ 17 ปี ที่เป็นผู้แจ้งความเพราะฉะนั้นกระบวนนี้เป็นกระบวนการเริ่มต้น แต่น้อง 17 ปีตามกระบวนการกฎหมายต้องได้รับสหวิชาชีพ และอาจจะมีผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งเข้าไปอยู่ในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ด้วย
ผมแยกเป็น3ประเด็น
ประเด็นที่1. คุณ สมรักษ์ คำสิงห์ผิดแน่นอน100% ตามกระบวนการกฎหมายที่เด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ทำการอนาจารหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ผมขอกราบอีกครั้งนึงว่าคุณสมรักษ์จะผิดหรือไม่ไม่ผิดอยู่ที่ศาลจะวินิจฉัย ซึ่งผมไม่อาจล่วงล้ำได้อย่างเช่นกรณีโจรเข้าบ้านแล้วเจ้าของบ้านยิงที่ผมกล่าวเบื้องต้นไป
ประเด็นที่2. คุณสมรักษ์ไม่ได้ตั้งใจที่จะไปกระทำการอย่างนั้นที่ขอนแก่น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าไปพบกันที่สถานบันเทิง และสถานบันเทิงนั้นก็มีหลายคนที่เข้าไปถ่ายรูปร่วมกับคุณสมรักษ์ แต่น้อง 17 นั้นได้เข้าไปร่วมนั่งอยู่กับคุณสมรักษ์จนสถานบันเทิงเลิก แล้วจากภาพหรือวิดีโอก็ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญใดๆเพื่อนำน้องไปยังสถานที่ ผมเชื่อว่าจะต้องมีการดื่มสุราเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบตรงนั้น แต่คุณสมรักษ์ก็ได้พาน้องคนนั้นไปที่โรงแรม และระยะเวลาที่ผมดูที่น้องกับคุณสมรักษ์ได้ขึ้นไปบนโรงแรมจนกระทั่งลงมาใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที สิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตุ รูปที่น้องอายุ 17 ปีได้ถ่ายนั้นคุณสมรักษ์นอนหลับ นั่นหมายรวมถึงใน 35 นาทีนั้นคุณสมรักษ์หลับช่วงไหน และน้องได้ส่งข้อความไปให้เพื่อนช่วยประเด็นไหนอย่างไรผมขอกราบเรียนอีกครั้งว่า คุณสมรักษ์ผิด แต่จะผิดประเด็นไหนนั้นอยู่ที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการ และการตัดสินอย่างไรก็ตามอยู่ที่อำนาจของศาล พิจารณาและวินิจฉัย ตามกระบวนกฏหมายนั้น นี่คือกรณีของคุณสมรักษ์ ส่วนในกรณีของน้องอายุ 17 ผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นตาเป็นพ่อหรือเพื่อนให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน กฎหมายมาตรา 137 การให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริงหรือความเป็นเท็จมีความผิดโดนจำคุกและปรับ เพราะฉะนั้น พ่อเลี้ยงเองคุณตาหรือเพื่อนที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน ต้องระมัดระวังและผมไม่อยากพูดอะไรมากมายเพราะน้องอายุ 17 จะต้องเป็นอนาคตของชาติ แต่พฤติกรรมต่างๆให้เป็นตัวอย่างต่อเยาวชนต่อไป ผมมีลูกสาวที่เดินตามหลังคือลูกสาวของผม และได้ผ่านในช่วงเวลาเหล่านั้นมาแล้ว เพราะฉะนั้นผมรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับเยาวชนอายุระหว่างม.1-5เป็นช่วงที่ต้องระมีดระวังในช่วงม.2-ม.6 เมื่อเขาขึ้นระดับมหาลัยก็จะมีความยั้งคิด นี่คือประเด็นของน้องซึ่งผมไม่อยากพูดอะไรมาก
ประเด็นที่3 ในเรื่องของสถานบันเทิง ก็จะเห็นว่าสถานบันเทิงนั้นมีการตรวจสอบ ค่อนข้างจะละเอียดแต่จะละเอียดขนาดไหนนั้น ผมดูทางวิดีโอเท่านั้นเอง สวนจะจริงเท็จหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ในฐานะที่ผมอยู่กระทรวงมหาดไทยบุคคล บุคคลไทยสัญชาติไทยเชื้อชาติไทยจำเป็นต้องพกบัตรประชาชนไปในทุกสถานที่ การไม่พกบัตรประชาชนนั้นผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นคนไทยจะมีบัตรสำคัญอยู่สามส่วนหนึ่งบัตรประชาชนสองบัตรใบขับขี่สามบัตรเอทีเอ็ม เพราะฉะนั้นมีบางส่วนบอกว่าให้เอาผิดกับสถานบันเทิง ผมก็บอกว่า มันเป็นการโหดร้ายกับเขาหรือไม่ การลงทุนของเขา10-30ล้าน และเขาได้ปฏิบัติส่วนน้อง 17 และพรรคพวก จะใช้บัตรที่เป็นไปตามความเป็นจริงหรืออย่างไรก็ตาม เพื่อให้อายุสูงกว่าความเป็นจริงก็ตามก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอีกครั้งนึง ผมไม่เห็นด้วยกับการที่จะต้องไปปิดสถานบันเทิงแห่งนั้นด้วยเหตุผลนี้ ผมขอขอกราบเรียนตรงนี้ผมไม่เคยรู้จักคุณสมรักษ์เป็นการส่วนตัว กับน้องอายุ 17 เป็นการส่วนตัว และผมไม่รู้จักสถานบันเทิงแห่งนั้นแหล่ะผมไม่เคยไปขอนแก่นในรอบ 15 ปี ทั้งสามส่วนนั้นผมมาร้องเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เพื่อเป็นตัวอย่างหรือเยี่ยงอย่างต่อไปในอนาคต ผมจึงมายื่นกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดย คุณ สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับหนังสือ