เด้ง 3 ตร.ไซเบอร์ อ้างเป็น ตร.คลองหลวง รีดเงิน 30,000 รถติดป้ายทะเบียนปลอม

จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก เครือข่ายเพื่อนตำรวจ ได้มีการข้อความระบุว่า "ตำรวจ สอท.1 อ้างเป็นตำรวจ ภ.จว.ปทุมธานี 3 คน ทำตัวเป็นโจรอุ้มผู้เสียหายไปตบทรัพย์ เลวแบบนี้มันต้องแฉให้หมดปล่อยไว้เป็นภัยต่อสังคม" ก่อนที่จะมีการโพสต์คลิปกล้องวงจรปิด เผยภาพเหตุการณ์ที่มีชาย 3 ราย อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ เข้าไปทำการกรรโชกทรัพย์ข่มขู่ผู้เสียหาย บริเวณห้างสรรพสินค้าย่านนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเรียกรับเงิน 30,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีเรื่องป้ายทะเบียนปลอม ที่เอามาติดรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำเพื่อหนีไฟแนนซ์รถ ก่อนจะพาผู้เสียหายมายังโรงพัก สภ.คลองหลวง

 

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น วันที่ 15 ธ.ค. 2566 เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้เสียหายเป็นชายชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าย่านนวนคร ก่อนที่จะมีกลุ่มชาย 3 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ สภ.คลองหลวง แต่งกายชุดธรรมดา ไม่ได้แต่งชุดตำรวจ ไม่ได้แสดงบัตรตำรวจ มาขอตรวจสอบรถยนต์ วีออส สีดำ ซึ่งผู้เสียหายยืมเพื่อนมาใช้  

จากนั้นก็แจ้งว่ารถใช้ป้ายทะเบียนปลอม ให้ผู้เสียหายนำรถไปที่ลานจอดรถหน้าอำเภอคลองหลวง ข้าง สภ.คลองหลวง ก่อนจะพาผู้เสียหายไปนั่งคุยที่ร้านขายอาหารแถวลานจอดรถ โดยบอกว่ารถใช้ทะเบียนปลอม มีโทษทางอาญา หากไม่อยากติดคุก ให้จ่ายเงินมาจำนวน 30,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อ 

จากนั้นชาย 1 ใน 3 คนก็พาผู้เสียหายไปกดเงินที่ตู้ ATM บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่สามารถกดเงินได้ ผู้เสียหายจึงเดินกลับมาแล้วให้แฟนไปกดเงินให้แทน เมื่อได้เงินมาแล้ว กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ให้ผู้เสียหายไปเก็บของในรถออก แล้วนำเงินไปวางในรถ ก่อนจะบอกว่าจะนำรถไปตรวจสอบ แล้วให้มารับรถคืน แต่ไม่บอกวันเวลา ทางผู้เสียหายจึงขึ้นแท็กซี่เพื่อเอาของไปที่นวนคร ก่อนจะนั่งรถแท็กซี่กลับมาที่ลานจอดรถที่หน้าอำเภอคลองหลวง

แต่เมื่อกลับมาที่ลานจอดรถ ก็ไม่เจอรถแล้ว จึงไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวงไว้เป็นหลักฐาน โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจกำลังนั่งตรวจเอกสารอยู่กับผู้เสียหาย และแฟนสาว
 

ล่าสุดเมื่อวันที่ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า ชายทั้ง 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่ใช่ตำรวจ สภ.คลองหลวง  

ส่วนรถของผู้เสียหายนั้น ทางตำรวจ 3 นาย ได้นำมาส่งคืนที่ สภ.คลองหลวง ตั้งแต่ช่วงตีสองของวันที่ 17 ธ.ค.แล้ว (หลังแจ้งความ) ซึ่งทาง สภ.คลองหลวง จะส่งรถไปให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1  นำไปตรวจสอบเก็บหลักฐานอีกครั้ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาตำรวจทั้ง 3 นาย ใน 3 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน , ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , กรรโชกทรัพย์

 

ส่วนผู้เสียหายนั้นก็มีความผิดเรื่องการสวมทะเบียนรถ ซึ่งดำเนินคดีกับผู้เสียหายในอีกส่วนหนึ่ง ส่วนประเด็นที่ผู้เสียหายแจ้งว่าถูกตำรวจ 3 นาย เรียกเงิน 3 หมื่นบาท ตอนนี้พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ยึดเงินดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานแล้ว

แต่จากการสอบปากคำผู้เสียหาย และตำรวจผู้ก่อเหตุ พบว่ามีคำให้การบางอย่างที่สอดคล้อง และไม่สอดคล้องกัน โดยส่วนที่สอดคล้องคือ ยืนยันได้ว่ามีการไปเรียกตัวผู้เสียหายมาเจรจาที่ข้าง สภ.คลองหลวงจริง  

แต่ที่ไม่สอดคล้องกัน เช่น  เงิน 30,000บาท ซึ่งทางผู้เสียหายอ้างว่าไปกดเงินมาให้ตำรวจ แต่ฝ่ายตำรวจอ้างว่า ยึดรถไปตรวจสอบแล้ว ถึงเจอเงินในรถ

และประเด็นที่ผู้เสียหายให้การว่า ตำรวจ สอท.3 นาย อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ สภ.คลองหลวง แต่ทางตำรวจ สอท.ยืนยันว่า ไม่ได้พูดแบบนั้น ซึ่งข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน จะต้องมีการสอบปากคำ และสืบสวนรายละเอียดต่อไป ให้ได้ข้อเท็จจริง โดยหลังจากสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว จะส่งให้ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน  

  
ทั้งนี้ ตำรวจทั้ง 3 นาย ที่ก่อเหตุ มียศ พ.ต.ต. 2 นาย และ ร.ต.ต. 1 นาย สังกัดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (สอท.)

 

ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยกรณีมีตำรวจในสังกัด บช.สอท. ระดับสารวัตร และ รองสารวัตร รวม 3 นาย ถูกกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ช่วงเย็นวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 

• พ.ต.ต.บุญทัน พันธ์จันทร์ สว.กลุ่มงานสนับสนุนทางไซเบอร์ บก.ตอท. 
• พ.ต.ต.ครรชิต จันท่าม่วง สว.กก.4 บก.สอท.1 และ
• ร.ต.ต.กำจัด บูชา รอง สว.กก.4 บก.สอท.1 

ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นาย ให้มาประจำที่ ศปก.สอท. พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาในสังกัด พานายตำรวจทั้ง 3 นาย ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าของคดีเพื่อให้ปากคำแล้ว หากตรวจสอบพบว่า นายตำรวจทั้ง 3 นาย กระทำผิดจริง จะดำเนินการในขั้นเฉียบขาด โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย