- 21 ธ.ค. 2566
กระทรวงสาธารณสุข เผย 4 จังหวัดนำร่อง 4 ภูมิภาค พร้อมแล้ว 100% "บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่" ดีเดย์ 8 ม.ค. 67
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้านโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่” โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเป็นนโยบายสำคัญ ทำความเข้าใจกับผู้บริหารของกระทรวง เดินทางไปตรวจเยี่ยมเพื่อรับฟังปัญหาและความก้าวหน้า 4 จังหวัดนำร่องทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรีและนราธิวาส พร้อมแล้ว 100% ที่จะเปิดให้บริการครบวงจร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้กับประชาชน โดยวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 จะเป็นวันเริ่มต้น หรือ Kick off พร้อมกัน ใช้จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจุดเปิดนอกสถานที่และเปิดระบบออนไลน์ไปยังอีก 3 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรีและนราธิวาส
นางสาวตรีชฎากล่าวว่า ของขวัญปีใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข ที่นพ.ชลน่านและบุคลากรในสังกัดกระทรวงมีความยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งที่จะมอบให้พี่น้องประชาชนครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิรูประบบสุขภาพครั้งใหญ่ใน 2 เรื่อง คือ
1. ปฏิรูประบบข้อมูลการให้บริการครั้งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อน บัตรประชาชนใบเดียวสามารถเข้าถึงการบริการได้ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข
2. ขยายบริการที่เป็นนวัตกรรมการอำนวยความสะดวกในการรับบริการของประชาชน
ทั้งนี้ หน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบความสำเร็จ คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ สปสช.ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ภายใต้การกำกับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย สปสช.ซึ่งมีสำนักงานเขตในภูมิต่างๆ จะร่วมมือกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่
“นับจากนี้ขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัวเตรียมใจหากเจ็บป่วยต้องการรับบริการตรวจรักษาและรับยา 4 จังหวัดนำร่องพร้อมจะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ ร้านยา ที่เข้าร่วมโครงการ” นางสาวตรีชฎากล่าว
อย่างไรก็ตาม นพ.ชลน่านได้ฝากแสดงความชื่นชมและส่งกำลังใจไปยังบุคลากรทุกคน ทุกส่วนที่จะร่วมกันมอบสิ่งดีๆ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการประชุมระดับชาติด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย 2566 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ออกแถลงการณ์ 12 ข้อ ที่ประกาศจะ “ทำทันที” ในการยกระดับและขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่ง 1 ใน 12 ข้อของแถลงการณ์ คือการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย