เปิดแนวทางในชั้นศาลอุทธรณ์ ลุงพลเดินหน้าสู้ต่อ ยังมีโอกาสชนะ

ทนายเดชา อธิบาย คดีลุงพล ในชั้นศาลอุทธรณ์ใครจะเป็นฝ่ายชนะ เผยแนวทางถ้าลุงพลอยากชนะคดี โต้แย้งไม่ได้ก็ติดคุก? ด้านแม่น้องชมพู่ ก็จะอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต


กรณีคดีน้องชมพู่ ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษา จำคุก 20ปี "ลุงพล" นายไชย์พล วิภา  ซึ่งหลักฐานสำคัญในการเอาผิดมัดตัวลุงพล ก็คือเส้นผมน้องชมพู่ 1 เส้นที่ตกอยู่ในรถของลุงพล  ที่นำไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์  พบมีองศาของรอยตัด หน้าตัดและพื้นผิวด้านข้าง ตรงกันกับเส้นผมน้องชมพู่ 2 เส้น ที่ตรวจเก็บได้จากบริเวณที่พบร่าง  ซึ่ง ลุงพล ได้ยื่นหลักทรัพย์ 780,000 บาท (หลักทรัพย์ที่ดินใน จังหวัดอำนาจเจริญ) เพื่อประกันตัว พร้อมสู้คดีต่อจนถึงศาลฎีกา ด้านทนายลุงพล ก็เตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน เช่นกัน 

เปิดแนวทางในชั้นศาลอุทธรณ์ ลุงพลเดินหน้าสู้ต่อ ยังมีโอกาสชนะ

เกี่ยวกับการเดินหน้าสู้คดีของลุงพล หลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 20 ปีใน 2 ข้อหา  ทาง ทนายเดชา  กิตติวิทยานันท์ ได้ออกมาพูดถึงการสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์  ใครจะเป็นฝ่ายชนะ?

เปิดแนวทางในชั้นศาลอุทธรณ์ ลุงพลเดินหน้าสู้ต่อ ยังมีโอกาสชนะ

 


มีหลายท่านถามว่า คดีลุงพลจะมีโอกาสที่จะยกฟ้องไหมในชั้นอุทธรณ์ ก็อยากจะบอกว่า คดีลุงพลก็มีโอกาสที่จะพิพากษากลับ พิพากษายืน พิพากษาแก้ ได้หมด แต่การที่ลุงพลจะชนะคดีในชั้นอุทธรณ์ได้ มันเกี่ยวกับพยานหลักฐานในสำนวนของศาลจังหวัดมุกดาหารซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ไม่ได้เกี่ยวกับความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาและหัวหน้าศาล ไม่เกี่ยวกันเลย ความเห็นแย้งของท่านอธิบดีและท่านหัวหน้าศาลเป็นแค่ความเห็นต่างจากเสียงข้างมาก ก็คือองค์คณะผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีแบบต่อเนื่อง

ซึ่งมี 2 ท่านตามกฎหมาย เพราะฉะนั้น ความเห็นแย้งของอธิบดีและหัวหน้าศาลไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจของผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์ ซึ่งจะมีองค์คณะที่จะพิจารณาในชั้นอุทธรณ์รวม 3 ท่านด้วยกัน เพราะฉะนั้น ถ้าลุงพลอยากชนะคดี ก็ต้องหักล้างคำตัดสินของศาลชั้นต้นให้ได้ เช่น

  • มีโทรศัพท์เครื่องเดียวทำไมโทรหากันเองได้
  • แล้วก็ทำไมตอบไม่ชัดเจนว่าขณะเกิดเหตุอยู่ไหน
  • แล้วก็พ่อแบมเบิกความมีพิรุธอย่างไร
  • เส้นผมไม่ใช่เส้นเดียวกันเพราะอะไร

เปิดแนวทางในชั้นศาลอุทธรณ์ ลุงพลเดินหน้าสู้ต่อ ยังมีโอกาสชนะ

หลัก ๆ เหล่านี้ถ้าหักล้างโต้แย้งคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้ ก็มีโอกาสชนะ แต่ถ้าโต้แย้งไม่ได้ก็ติดคุก ในขณะเดียวกัน แม่ชมพู่ ก็จะอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต เพราะตอนนี้เขาชนะไปแล้ว เบื้องต้นและข้อหาพลาดกับประมาทเป็นเหตุให้ลูกเขาตาย เขาก็แค่อธิบายหรืออุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ควรจะประหารชีวิต

 

เพราะการที่นำตัวน้องชมพู่ไปทิ้งไว้บนภูเขา มีเจตนาร้าย เล็งเห็นผลว่าจะต้องตาย เพราะไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ แดดร้อน อันนี้ก็เป็นเรื่องที่แม่น้องชมพู่จะต้องอธิบายให้ศาลอุทธรณ์เพื่อให้ประหารชีวิต คดีนี้สุดท้ายจะเป็นอย่างไร รอศาลอุทธรณ์ตัดสินครับ