จับดาวทวิตเตอร์ ผู้ติดตามเกือบ 4 แสน เปิดกลุ่มลับปล่อยคลิป เก็บค่าเข้า 99

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อนุสรณ์ ธีรนุชพงศ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม นางสาวน้ำฝน (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ในความผิดฐาน “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการจ่ายแจกหรือเพื่อการแสดง อวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพ ระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือ สิ่งอื่นใดอันลามก” และ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ และ ส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ (X) ชื่อบัญชี สายฝน ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 400,000 คน มีการโพสต์ภาพนิ่ง คลิปวีดีโอช่วยตัวเอง และคลิปวีดีโอมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น อีกทั้งเชิญชวนให้ติดต่อพูดคุยเพื่อเข้าสมัครเป็นสมาชิกเพื่อดูคลิปวีดีโอลามกดังกล่าว โดยคิดค่าสมัครในราคา 99 บาท ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ที่สามารถเข้าถึงโดยง่าย 

ต่อมาได้ให้สายลับติดต่อพูดคุยทางข้อความ พบว่าผู้ใช้บัญชีดังกล่าวได้แจ้งว่า “หากสนใจเข้ากลุ่มลับเพื่อดูคลิปวีดีโอลามกของตนเอง ให้โอนเงิน จำนวน 99 บาท พร้อมแจ้งให้เพิ่มเพื่อนผ่านทางไลน์ ต่อมาเมื่อได้เพิ่มเพื่อนแล้ว ผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวได้แจ้งให้ส่งรูปสลิปหลักฐานการโอนเงินมาให้ดู และเชิญให้กดยอมรับการเข้ากลุ่มลับที่ตนสร้างไว้ เมื่อกดยอมรับแล้ว พบว่าในกลุ่มมีคลิปวีดีโอช่วยตัวเองบันทึกไว้ในโน้ตกลุ่มไลน์ดังกล่าวจำนวนประมาณ 16 คลิป ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอการช่วยตัวเอง และคลิปวีดีโอการมีเพศสัมพันธ์ของผู้หญิงคนหนึ่ง จึง รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุม

สอบสวนให้การรับสารภาพว่า กระทำความผิดจริงโดยใช้มือถือการถ่ายภาพตัวเองที่มีลักษณะลามก และทำการโพสต์ชักชวนบุคคลที่ติดตามตนเองในทวิตเตอร์ ให้เข้ามาดูภาพและคลิปดังกล่าวในไลน์กลุ่มลับของตัวเอง โดยต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนในการเข้ากลุ่มไลน์ดังกล่าวในราคา 99 บาทต่อคน โดยได้กระทำการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ได้ค่าตอบแทนโดยรวมหลักหมื่นบาทต่อเดือน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ภ.จว.ชัยภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป