- 29 ธ.ค. 2566
"พวงเพ็ชร" ร่อนหนังสือด่วนที่สุดสั่ง พศ.ตรวจสอบ "หลวงพี่โจ"โพสต์คลิปรีวิวเที่ยวญี่ปุ่น เผยบทลงโทษขึ้นอยู่กับทางคณะสงฆ์จะพิจารณา ชี้ถือเป็น "โลกวัชชะ" ไม่ถึงกับเป็นอาบัติหนัก
จากกรณีที่มีคลิปหลวงพี่รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น โดยพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งได้อัดคลิปรีวิวขณะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ไปเที่ยวตามสถานที่ยอดฮิตต่างๆ อาทิ นั่งชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE Ferris Wheel ชมวิวยามค่ำในเมืองโอซากา เดินชมความงามของหอคอยซึเทนคาคุ ก่อนจะนั่งรถไฟไปศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ วัดคินคะคุจิ และไปชมหิมะตกที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ แถมยังยังแวะฉันราเมน ไอศกรีมชาเขียว พร้อมทั้งยืนถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ถึงความเหมาะสมว่านี่ใช่กิจของพระสงฆ์หรือไม่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงต่อภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม จึงได้สั่งการด่วนให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รีบดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น
จากการตรวจสอบพบว่า พระที่ปรากฏในภาพข่าวชื่อ พระมหาศรนริน หรือ หลวงพี่โจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประสาน นายสุขพิชัย เชาวกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ลงพื้นที่พร้อมด้วยพระมหาสุวรรณ วิชฺชาธโร เจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง เดินทางไปยังวัดดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงทันทีที่ปรากฏเป็นข่าว โดยได้ประสานไปยังพระครูเมธากร เจ้าอาวาสวัดไร่พรุ ซี่งเป็นผู้ให้ข้อมูลและติดต่อพระมหาศรนริน หรือ หลวงพี่โจ เพื่อตักเตือนและให้ดำเนินการลบคลิปทั้งหมดออกจากสื่อโซเชียล ซึ่งหลวงพี่โจดำเนินการทันทีหลังจากได้รับการติดต่อ และได้ให้ข้อมูลว่าคณะจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 นี้
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ในส่วนของสำนักพุทธฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการสนองงานคณะสงฆ์ อีกทั้งเป็นหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา หากมีสิ่งใดทำให้คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย จะต้องรีบเข้าดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขอย่างทันท่วงที ซึ่งในกรณีที่คณะสงฆ์เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและตกเป็นข่าวเช่นนี้ ทางสำนักพุทธฯ ได้ประสานเจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง และทราบว่าจะมีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมพระสังฆาธิการจังหวัดตรัง เพื่อให้พิจารณา ในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ด้วย ซึ่งบทลงโทษจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับทางคณะสงฆ์จะพิจารณา กรณีดังกล่าวถือเป็น “โลกวัชชะ” โลกตำหนิติเตียนว่าไม่เหมาะสมในสมณสารูป แต่ไม่ถึงกับเป็นอาบัติหนักแต่อย่างใด