"จ่าโท ทหารเรือ" ลั่นไกลเป่าขมับตัวเองดับคาห้องพัก ทิ้งจดหมายลา 1 ฉบับ

ตำรวจพบจ่าโท ทหารเรือ ใช้ปืนทำร้ายตัวเอง พยายามทำ CPR แต่ไม่เป็นผล ข้างตัวพบปืนและจดหมายลา 1 ฉบับ ญาติเผยป่วยซึมเศร้ามาสักพักแล้ว

วันที่ 29 ธันวาคม 2566 เวลา 14.44 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการทำร้ายตนเองด้วยอาวุธปืน ที่เกิดเหตุอยู่ภายในอาคารที่พักอาศัยส่วนกลางกองทัพเรือ พื้นที่ สุขสวัสดิ์ 26 จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

จ่าโท ทหารเรือ ลั่นไกลเป่าขมับตัวเองดับคาห้องพัก ทิ้งจดหมายลา 1 ฉบับ

จ่าโท ทหารเรือ ลั่นไกลเป่าขมับตัวเองดับคาห้องพัก ทิ้งจดหมายลา 1 ฉบับ

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบสถานที่เกิดเหตุอยู่ภายในอาคารที่พักอาศัยส่วนกลางกองทัพเรือ พื้นที่ สุขสวัสดิ์ 26 ตรวจสอบภายในห้องดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ จ่าโท เจนณรงค์ วงค์อุคะ อายุ 29 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่บนที่นอนลายการ์ตูนสีเหลืองหัวหนุนหมอนสีขาว ห่มผ้าลายการ์ตูนสีแดง สวมใส่เสื้อคอโปโรแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ 

มีบาดแผลเป็นลักษณะถูกกระสุนปืนเป็นรูที่บริเวณกกหูข้างขวาทะลุกกหูด้านซ้าย มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมากนอนหายใจรวยรินอยู่บนที่นอนดังกล่าว อาสาสมัครพยายามอย่างเต็มกำลังให้การช่วยเหลือโดยการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทำการปั้มหัวใจ ( CPR) อยู่นานแต่ไม่เป็นผล จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว 

ที่ข้างตัวบนที่นอนพบอาวุธปืน ซิกซาวเวอร์ p365 ขนาด 9 มม. สีดำ ตกอยู่ 1 กระบอก แล้วที่บริเวณกำแพงพบลอยกระสุนปืนเป็นลอยทะรุจนปูนแตกเป็นรูอย่างเห็นได้ชัดเจน หัวกระสุนปืนยังตกอยู่ด้วยในบริเวณดังกล่าว และต่อมาได้พบจดหมายที่ผู้ตายเขียนเอาไว้ 1 ฉบับ เจ้าหน้าตำรวจจึงทำการปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ก่อนเพื่อรอให้เจ้าหน้าทีจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

เบื้องต้นบนร่างผู้เสียชีวิตมีบาดแผลจากกระสุนปืนบริเวณกกหูข้างขวา ทะลุข้างซ้าย มือขวาพบคลาบเขม่าจากดินปืน ภายในห้องไม่มีการถูกลื้อค้นและไม่พบร่องลอยจากการต่อสู้  และจากการสอบถามจากทางญาติของผู้ตายบอกเล่าว่าผู้ตายมีอาการซึมเศร้ามาสักระยะหนึ่งแล้วจึงคาดว่าน่าจะตัดสินใจปลิดชีพตนเอง ประกอบกับพบจดหมายลาที่ผู้ตายเขียนเอาไว้ด้านในจดหมายส่วนใหญ่จะเป็นคำขอโทษผู้เป็นแม่ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แล้วจะให้ญาตินำเอกสารไปติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป