แอมมี่ เตรียมตัวเตรียมใจ รับเป็นคดีสุ่มเสี่ยง นัดพิพากษา 26 มี.ค. คดีม.112

15 ม.ค. 67  ศาลนัดฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ฟ้องคดีของ “แอมมี่” The Bottom Blues หรือ นายไชยอมร และนายธนพัฒน์ เป็นจำเลยที่ 1- 2 ตามลําดับในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 “หมิ่นประมาทสถาบันฯ มาตรา 217 , วางเพลิงเผาทรัพย์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)"

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 จำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันวางเพลิง โดยใช้น้ำมันก๊าชราดใส่ และจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม อันเป็นทรัพย์สินของกลางของเรือนจำ จนไฟได้ลุกลามไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมโครงสร้างไม้และเหล็ก และอุปกรณ์ที่ประดับจนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 6 รายการ

และค่าติดตั้ง 1 รายการ รวมเป็นความเสียหายทั้งสิ้นเป็นเงิน 60,000 บาท ถือเป็นการกระทําอันไม่สมควร ล่วงละเมิด นับเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้าย ดูหมิ่นสถาบันฯ

ความคืบหน้าโดยเมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ที่ผ่านมา  นายไชยอมร หรือ “แอมมี่" ได้เดินทางมาถึงที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นฟังคําวินิจฉัยศาลว่า เป็นคดีที่สุ่มเสี่ยงคาดว่าจะได้รับการประกันตัว 60 เปอร์เซ็นต์ อีก 40 เปอร์เซ็นต์คือไม่ได้รับการประกันตัว ที่จริงวันนี้ศาลนัดฟังคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและอาจจะนัดฟังคําพิพากษาวันหลังหรืออาจจะพิพากษาช่วงบ่ายวันนี้ต้องรอลุ้น  

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่หากศาลอ่านคําพิพากษาในวันนี้ นายไชยอมร หรือ “แอมมี่" กล่าวว่าทุกการกระทําทุกแอคชั่นจะสําเร็จหรือไม่ คงต้องยอมรับกับสิ่งที่จะตามมาให้ได้ หากต้องพ่ายแพ้ก็ขอให้เป็นความพ่ายแพ้ที่มีเกียรติ

เพราะตนเองเตรียมตัวเตรียมใจตั้งแต่เริ่มต่อสู้แล้วว่ามีความเสี่ยงที่จะต้องติดคุกติดตารางหรือแม้แต่ชีวิต จึงขอใช้โอกาสตรงนี้เพื่อให้เพื่อนๆที่อยู่ในเรือนจําช่วยกันเป็นหูเป็นตา อย่างไรก็ตามเข้าใจว่าเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ แต่อิสราภาพก็เช่นกันอยากให้พวกเขาออกมาและขอยืนยันว่าตนเองไม่มีความอาอาฆาตมาดร้าย ต่อสถาบันฯ แต่ทําไปเพื่อสิทธิเสรีภาพของเพื่อนๆและสาธารณชน

ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าการเผาพระบรมฉายาลักษณ์นั้นขัดต่อการใช้สิทธิเสรีภาพหรือเรียกว่าเป็นการใช้สิทธิเกินขอบเขต ซึ่งศาลนัดฟังคําพิพากษาวันที่ 26 มีนาคม2567