- 15 ม.ค. 2567
เจอแล้วเก๋งขาวToyota Crown พุ่งชนแท็กซี่กลางถนนรัชดา ไปจอดทิ้งในซอยอินทามระ 26 พบ ติดสติกเกอร์ สำนักงานอัยการสูงสุด
คืบหน้ากรณีเก๋งขาว พุ่งชนแท็กซี่ กลางถนนรัชดาภิเษกเมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเร่งเครื่องพุ่งชนแท็กซี่หลายครั้ง ล่าสุด พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง ให้สัมภาษณ์ถึงผลการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีคู่กรณีจำนวน 3 คัน เป็นแท็กซี่ 2 คัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเป็นรถที่ปรากฏในคลิป และรถเก๋ง Toyota Crown สีขาวออกบรอนด์ คันก่อเหตุ พบว่าแท็กซี่เขียวเหลืองที่ปรากฏในคลิป ขับมุ่งหน้ามาจากแยกผังเมือง ก่อนเลี้ยวขวาแยกพระราม 9 เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกและพยายามเบี่ยงซ้ายมารับผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าโลตัสพระราม 9 หรือฟอร์จูนทาวน์
ส่วนรถเก๋งคันก่อเหตุขับมุ่งหน้ามาจากดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ก่อนจะมาขับพุ่งชนรถแท็กซี่เขียวเหลืองคันดังกล่าว
จากนั้นรถเก๋งคันก่อเหตุ ได้ขับมุ่งหน้าตรงไปยังแยกเทียนร่วมมิตร ซึ่งได้เฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คัน บริเวณด้านหน้าตึก RS ก่อนที่แท็กซี่เขียวเหลืองจะสามารถมาปาดหน้าดักสกัดได้ทันบริเวณด้านหน้า the Street รัชดา แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและโชคดีที่มีพลเมืองดีในพื้นที่สามารถบันทึกคลิปเอาไว้ได้
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนสามารถติดต่อผู้ครอบครองรถเก๋งคันก่อเหตุได้แล้ว เบื้องต้นให้การผ่านทางโทรศัพท์ยอมรับว่า เป็นผู้ขับรถก่อเหตุดังกล่าวจริง และจะเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนภายในวันนี้ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เช่น การดื่มสุรา เหตุผลที่ขับรถหนี หรือคนขับมีอาการป่วยตามที่ปรากฏรายงานข่าว
เรื่องนี้ขอสงวนยังไม่เปิดเผย เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อข้อมูลใด ๆ จากปากผู้ก่อเหตุ ต้องรอให้มาที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งนำไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อหาสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ในร่างกาย
ส่วนรถเก๋งขาว คันก่อเหตุ พบว่าผู้ก่อเหตุนำไปจอดทิ้งไว้ท้าย ซอยอินทามระ 26 จึงได้ประสานตำรวจ สน.สุทธิสาร และได้นำรถคันดังกล่าวมาตรวจยึดเป็นของกลาง แล้วนำมาไว้ที่สถานีตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ ต่อไป
ส่วนสาเหตุที่นำรถไปจอดทิ้งไว้ภายในซอยอินทามระ 26 จะต้องดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนของเหลวที่พบภายในรถเก๋งคันก่อเหตุนั้น เบื้องต้นประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานให้มาตรวจสอบแล้ว
ส่วนสมมุติฐานที่ว่า คนขับรถเก๋งเกิดอาการสติแตก ในระหว่างเกิดเหตุนั้น พ.ต.อ.ประสพโชค มองว่าเป็นไปได้แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดก่อน ยอมรับว่าเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 12 ชั่วโมง อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่ถ้าหากผู้กระทำความผิดเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน ก็จะเป็นผลดีกับตัวเขาเอง เพื่อแสดงข้อเท็จจริง ส่วนถ้าหากคนขับรถเก่งมีอาการป่วยจริง ก็ควรจะต้องนำใบรับรองแพทย์มาแสดง ซึ่งตนไม่อยากจะชี้นำในประเด็นนี้
นอกจากนี้จากการตรวจสอบรถเก๋งขาวที่ก่อเหตุ คือรถยนต์ โตโยต้า คราวน์ สีขาว ได้มีการติดสติกเกอร์ สำนักงานอัยการสูงสุด อยู่ที่หน้ากระจกรถด้วย
สำหรับแนวทางการดำเนินคดี วางแผนเอาไว้ว่าเป็นการดำเนินคดีแบบต่างกันต่างวาระ ในกรณีเหตุการณ์ขับรถชนจาก จุดที่ 1 และจุดที่ 2 คือ หน้าโลตัสพระราม 9 จนถึงหน้าอาคาร RS Tower อาจจะเป็นข้อหาขับรถโดยประมาทและชนแล้วหนี ส่วนจุดที่ 3 บริเวณด้านหน้า the Street รัชดา ตามที่ปรากฏในคลิปแน่ชัดแล้วว่าเป็นข้อหาทำให้เสียทรัพย์และขับรถชนโดยเจตนา
ส่วนรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองที่ถูกชนในคลิป ไม่ถือว่าประมาณร่วมหรือมีส่วนที่ต้องแจ้งข้อหาใด ๆ เพราะพิจารณาจากพฤติการณ์ เป็นการป้องกันขัดขวางไม่ให้ผู้กระทำความผิดหลบหนี จึงไม่มีความผิด