แม่เฒ่าวอนถูกเก๋งชนสาหัส แจ้งความคดีเงียบกริบ แถมต้องจ่ายค่ารักษาเอง

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางฐานิดา บรรยงรักษ์กุล อายุ 73 ปี ผู้เสียหายจากคดีถูกรถชนบริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (เก่า) ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม.เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าตรู่ วันที่ 2 ธ.ค.2566 ท้องที่สน.ชนะสงคราม ซึ่งขณะนี้คดียังไม่คืบหน้าเนื่องจากพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ โยกย้ายไปทำหน้าที่ ที่โรงพักแห่งใหม่และยังไม่ได้มอบสำนวนให้หัวหน้างานสอบสวนโรงพักเก่า

 

นางฐานิดา เล่าว่า ช่วงเช้าวันที่ 2 ธ.ค.2566 ตื่นไปใส่บาตรและซื้อของตามปกติ โดยระหว่างกำลังเดินข้ามถนนบริเวณหน้าสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล (เก่า) ทิศทางจากสนามหลวงมุ่งหน้าแยกคอกวัว ได้ถูกคู่กรณีขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีขาว ทะเบียน ฌธ 9321 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นมีอาการฟันหัก 5 ซี่ ต้องเย็บที่บริเวณคาง จมูกผิดรูป ขาหักมือและนิ้วก้อยข้างขวาต้องดามเหล็ก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรักษาตัวโดยความควบคุมดูแลของแพทย์โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งแพทย์ได้ทำการนัดหมายให้เข้าตรวจร่างกายอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับบาดเจ็บหลายส่วน ประกอบกับอยู่ในวัยชรา

ทว่าตอนเกิดเหตุ ทราบมาว่ารถคู่กรณีไม่มีประกันภัย มีเพียง พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซ้ำร้ายพนักงานสอบสวน ที่เป็นเจ้าของคดี ชื่อ ร.ต.อ.ชวะฤทธิ์ จันทร์เกิ้นสน.ชนะสงคราม ได้ถูกแต่งตั้งโยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สน.สุทธิสาร ทำให้ไม่รู้ว่าจะปรึกษากับผู้ใด ได้ลองโทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.ท.โชคอำนวย วงษ์บุญฤทธิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม ซึ่งเป็นหัวหน้างานสอบสวนในปัจจุบันแล้ว ได้ข้อมูลว่า ผู้กองชวะฤทธิ์ ยังไม่ส่งมอบสำนวน จึงยังไม่สามารถมอบหมายคดีพนักงานสอบสวนคนใหม่มารับผิดชอบแทนได้

 

 

"ขณะนี้เหตุเกิดมาได้เดือนกว่าๆ แล้ว ยังไม่ได้มีการตกลงเจรจาใดๆ ต่อหน้าพนักงานสอบสวน ขณะที่ค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางไปพบแพทย์ และค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลรักษาตัวได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากเรียกร้องให้ ร.ต.อ.ชวะฤทธิ์ จันทร์เกิ้น และผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามเรื่องคดีให้ตนด้วย เนื่องจากใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และอยากให้ทางคู่กรณี มาช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นบ้าง เพราะตนก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร" นางฐานิดา กล่าว.