ปภ.เตือนด่วน 4 จังหวัด 21 อำเภอ เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ฝนถล่มหนัก 24-27 ม.ค.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนด่วน 4 จังหวัด 21 อำเภอ เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ฝนถล่มหนัก 24-27 ม.ค. นี้

วันที่ 23 ม.ค. 2567 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์คลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 24-27 มกราคม 2567 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้

 

ปภ.เตือนด่วน 4 จังหวัด 21 อำเภอ เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ฝนถล่มหนัก 24-27 ม.ค.

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 2 (13/2567) ลงวันที่ 23 มกราคม 2567 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางพื้นที่ 


สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน คลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 24-27 มกราคม 2567 ดังนี้

 

  • จังหวัดนครศรีธรรมราช 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล ท่าศาลา ปากพนัง และหัวไทร
  • จังหวัดสงขลา 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร จะนะ และเทพา
  • จังหวัดปัตตานี 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก ยะหริ่ง ปะนาเระ สายบุรี และไม้แก่น
  • จังหวัดนราธิวาส 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส และตากใบ

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้ประสาน 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า โดยออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ตลอนจนแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด 


นอกจากนี้ ให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบแจ้งเตือนไปยังชาวเรือ ผู้บังคับเรือ และผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหากสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น ให้จังหวัดพิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ หากประเมินสถานการณ์แล้ว คาดว่าสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงหรือขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ให้จังหวัดเตรียมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เครื่องจักรกลสาธารณภัย และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมออกช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง