ตำรวจล่าข้ามเกาะ แม่ค้าสาวแสบวีรกรรมเป็น 100 คดี หนีกบดานเป็นปี

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เดือดร้อน ที่ตั้งกลุ่มไลน์รวมผู้เสียหายกว่า 60 คน ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวน.ส.มาริสา แม่ค้าแสบซึ่งมีพฤติการณ์ หลอกขายโทรศัพท์มือถือเปิดร้านร้านขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่างๆผ่านเพจเฟซบุ๊กและอินสตราแกรม โดยให้ลูกค้าจ่ายเงินดาวน์ตามที่กำหนด ถึงจะสามารถผ่อนชำระสินค้าได้ ต่อมาเกิดบ่ายเบี่ยงไม่ส่งสินค้า และได้ปิดเพจร้าน ทำให้มีลูกค้าได้รับความเสียหายกว่า 100 คน

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ หลังรู้ว่าตัวเองถูกหมายจับ ได้หนีหลบซ่อนตัวไปตามจังหวัดต่างๆ จนต่อมาได้สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่บนเกาะช้าง จังหวัดตราด ชุดจับกุมจึงได้วางแผนเดินทางไปจับกุม 

 

 

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.สส.1ฯ  ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 4 ได้ร่วมกันจับกุมตัว  นางสาวมาริสา อายุ 21 ปีพูมิลำเนา ต.บางโปร่ง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

1.เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 953/2566 ลงวันที่ 28 พ.ย. 2566 กระทำความผิดฐาน  "ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน"

2.หมายจับศาลจังหวัดหล่มสักที่ 23/2566 ลงวันที่ 9 ก.พ.2566 กระทำความผิดฐาน  "ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน"

3.หมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่จ.114/2566 ลงวันที่ 24 ส.ค.2566 กระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน"

4.หมายจับศาลอาญา 3279/2566 ลงวันที่ 27 ก.ย. 2566 กระทำความผิดฐาน  "ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน"

 

โดยจับกุมได้ที่หน้าร้านรับส่งพัสดุ ไม่ทราบเลขที่ ซ.แอลบีคอมเพล็กซ์ ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อปี พ.ศ. 2564 น.ส.มาริสา ได้เปิดเพจ m.mymint.phone เพื่อจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่างๆ โดยลูกค้าที่สนใจในช่วงแรกจะเป็นคนคุ้นเคยกัน เข้ามาผ่อนสินค้า เช่นโทรศัพท์มือถือ แทปเล็ต หูฟัง เป็นต้น หากผ่อนชำระยอดเกิน 50% จึงได้รับสินค้าไป โดยช่วงแรกจะมีลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมาช่วงหลังเพจมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน จึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาผ่อนชำระสินค้ามากขึ้น

โดยลูกค้าที่สนใจต้องใช้บัตรประชาชนเป็นหลักฐานในการผ่อนชำระสินค้า ต่อมาเมื่อลูกค้าได้ผ่อนชำระเกิน 50% และได้รับสินค้าไปแล้ว ไม่ยอมผ่อนชำระต่อ น.ส.มาริสา จึงเพิ่มเงื่อนไขของลูกค้าคนใหม่คือ ต้องจ่ายเงินดาวน์ตามที่กำหนด ถึงจะสามารถผ่อนชำระสินค้าได้ และ น.ส.มาริสา ได้นำเงินดาวน์ของลูกค้าคนใหม่ไปหมุน เพื่อชำระสินค้าของลูกค้าคนเก่า ทำให้ร้านขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินมาบริหารธุรกิจต่อได้ จึงได้ปิดเพจดังกล่าวลง และมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท

 

 

จากการซักถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในหมายจับของ สน.บางขุนเทียน โดยตนหนีมาหลบซ่อนตัวที่เกาะช้าง หลังจากรู้ว่ามีหมายจับ และได้มาทำงานรับจ้างร้านรับส่งพัสดุ ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะโกง เพราะบางคนดาวน์ไป แต่ไม่ผ่อนส่ง เกิดการขาดสภาพคล่อง หมุนเงินไม่ทัน จึงได้ปิดเพจลง และได้คืนค่าสินค้าให้กับลูกค้า แต่ว่าคืนยังไงก็ไม่หมด

จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย การซื้อขายทางออนไลน์ต้องมีร้านที่เชื่อถือได้ มีหน้าร้านเป็นหลักแหล่ง และถ้าสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาลIDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ