ซัน หลานอากู๋ ลั่น 5 บุกรุกเหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย ค้านปล่อยตัวชั่วคราว

ความคืบหน้ากรณีพิพาทครอบครองปรปักษ์ ในทาวน์เฮ้าส์ย่านรามอินทรา 35 โดยเพื่อนบ้านได้บุกเข้ายึดบ้านพร้อมอ้างครอบครองปรปักษ์ อยู่มาเป็นระยะเวลา 10ปี ล่าสุดวันที่ 16 ก.พ.67  ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารมีนบุรี  พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้นำตัว น.ส.ศรีพรรณ กับพวกรวม 5 คน ผู้บุกรุกอ้างครอบครองบ้านปรปักษ์  มาส่งสำนวนอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1  มีความเห็นสั่งฟ้อง ในข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และ ลักทรัพย์

ด้าน ซัน หลานอากู๋ พร้อมทนายความ ดินทางมาพบพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ด้วยเช่นกัน เพื่อยื่นหนังสือคำร้องคัดค้านการปล่อยชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า กลุ่มผู้ต้องหาบุกรุกเข้ามาในบ้านของตนเองหลายครั้ง เพื่อมาครอบครองบ้านและมีการฟ้องปรปักษ์ไว้ พฤติการณ์เหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงอยากให้พนักงานอัยการ ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว

นายซัน ยังกล่าวอีกว่า หลังจากก่อนหน้านี้ที่ตนเองพร้อมทนายความและตำรวจ สน. โคกครามบุกเข้าไปยังบ้านหลังดังกล่าวและไปตัดกุญแจพร้อมกับปลดป้ายไวนิลออก คู่กรณีก็ไม่มีการติดต่อพูดคุยแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่มีการข่มขู่หรือคุกคาม พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการเจรจาพูดคุยขอให้คดีความ เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาของศาล

ในส่วนของ นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาสำนวนว่า หลังจากพนักงานสอบสวนนำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหามาส่งให้ พนักงานอัยการ  อัยการจะใช้เวลาในการพิจารณาสำนวนไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อนอะไร และคาดว่าจะมีความเห็นทางคดีได้ ว่าจะมีความเห็นฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่ ทั้งนี้ อัยการนัดฟังคำสั่ง วันที่ 6 มี.ค.2567

เปิดหนังสือคัดค้านปล่อยตัวชั่วคราวของ "ซัน"ภคิน ทิมกุล หลานอากู๋ เหมทัศน์ เจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านตัวจริง วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567เรื่อง ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวเรียน อัยการจังหวัดมีนบุรี อ้างถึง คดีร่วมกันบุกรุก ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์
  

ข้าพเจ้า นายเหมทัศน์ ปราชญานุสิทธ์ โดย นายภคิน ทิมกุล ผู้รับมอบอำนาจมีความประสงค์ยื่นหนังสือฉบับนี้ต่ออัยการจังหวัดมีนบุรี เพื่อขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 5 มีพฤติกรรมกระทำความผิดซ้ำซาก กล่าวคือ   บุกรุกเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้าหลายครั้งหลายหน และทางข้าฯก็ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 5 แล้ว และกลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ได้ยอมออกจากบ้านของข้าพเจ้าแล้ว  หลังจากนั้นต่อมากลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ยัง เหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองยังบุกรุกเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้าอีกครั้ง

โดยการตัดกุญแจ และบุกรุกเข้าไปนำทรัพย์สินสวนตัวเข้าไปไว้ในบ้านและยังเปลี่ยนกุญแจ โดยเอากุญแจของตนเองมาติดตั้งแทนเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้าของบ้านเข้าไปในบ้านได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังนำป้ายมาติดว่าตนเอกได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว ทั้งที่ศาลยังมิได้มีคำพิพากษาแต่อย่างใด รวมทั้งได้นำป้ายไวนิลมาติดที่หน้าบ้าน อ้างว่าเป็นการประกอบการค้าโดยนำเบอร์โทรของบุคคลอื่นมาแสดงในป้าย อันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวและมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง

นอกจากนี้ทนายความของกลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ยังท้าทายข้าพเจ้าว่าคดีนี้ตนเองมีสิทธิ์ที่จะชนะคดีได้อย่างแน่นอน เพราะได้ครอบครองมาแล้วเกินกว่า 10 ปี ทั้งที่พยานหลักฐานอยู่มาเพียง 6 ปีเท่านั้น พฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาและทนายความเป็นเรื่องที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและคดีนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน รายละเอียดปรากฏตามภาพข่าวต่างๆที่ได้แนบมาแล้วนั้น

ดังนั้นโดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้เสียหายจึงขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 5 เพื่อให้อัยการจังหวัดมีนบุรีได้พิจารณาตามที่เห็นสมควรต่อไป