อัปเดตครั้งสุดท้าย "อั๋น อสรพิษวิทยา" ยังไม่ได้สติ เรื่องลุกลามมีดราม่า

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ทางเพจ Nick Wildlife ได้โพสต์อัปเดตอาการของ อั๋น อสรพิษวิทยา ถูกงูจงอางกัดอาการโคม่า โดยบอกว่าจะเป็นการอัปเดตครั้งสุดท้าย รอให้อาการคงที่ก่อนค่อยกลับมาอีกครั้ง พร้อมได้พูดถึงกระแสดราม่าต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ระบุดังนี้

 

อัพเดทอาการอั๋น จากการถูกงูจงอางกัด และคำอธิบายประเด็นที่เริ่มจะดราม่า

 

 

ในการอัปเดทอาการช่วงนี้ในเพจ คงจะเป็นการอัปเดทครั้งสุดท้าย ในเวลานี้อั๋นยังไม่ได้สติ แต่เริ่มพยายามหายใจได้ด้วยตัวเอง สามารถรับสารอาหารได้ดีมากขึ้น และมีพัฒนาการไปในทางที่ดีแบบค่อยเป็นค่อยไป

เนื่องจากอาการอั๋นทรงตัวและต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับมีดราม่าเข้ามาประปราย จึงเห็นว่าควรรอให้อาการอั๋นมีพัฒนาการที่ชัดเจน ค่อยอัปเดทอีกทีจะดีที่สุด

ส่วนดราม่าก็เป็นแบบที่เราคาดการณ์ไว้แต่ทีแรก มีบางท่านมองว่าเพจกำลังโหนน้องอั๋น เราจึงขอชี้แจงแนวทางในการตัดสินใจทุกอย่างดังนี้

หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้น  ทีมตัดสินใจล้มเลิกแผนงานทุกอย่าง ไม่มีใครมีกะจิตกะใจทำอะไรในเวลานั้น แล้วเอาเวลาทั้งหมดมารับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือหากตั้งใจจะโหนกระแสของอั๋น เราสามารถทำได้ตั้งแต่วันแรกที่ถูกกัด เพราะมีบันทึกเหตุการณ์หลายๆอย่างจากทีมงานที่บันทึกคลิปวีดีโอไว้

แต่เราตัดสินใจเงียบๆ และจัดการทุกอย่างกันเอง เพราะไม่อยากให้วุ่นวาย ไม่อยากตอบคำถาม เพราะแค่นี้ก็หนักพอแล้ว จนมาถึงประเด็นที่น้องต้องการเลือด แล้วเลือดอาจไม่เพียงพอ เราตัดสินใจโพสขอบริจาคแค่ในทีม แม้แต่ตัวพี่นิคเองก็ยังไม่โพสต์เพราะไม่อยากให้มันเกิดความแตกตื่น

 

แต่สุดท้ายพี่นิคตัดสินใจ โพสต์ในเฟสส่วนตัวขอรับบริจาคเลือด ไม่โพสต์ในเพจ เนื่องจากเลือดยังไม่พอ และสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี แต่สุดท้ายความเป็นห่วงเป็นใยของทุกๆคน ทั้งผู้ติดตาม เพื่อนฝูง สื่อมวลชน ที่ต้องการให้อั๋นปลอดภัย ได้รับเลือดทันเวลาอย่างพอเพียง ก็ได้ทำให้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน

และในขณะที่ข่าวกำลังเป็นกระแส อย่างล้นหลามทางเพจเองก็ไม่ได้ใช้โอกาสนี้ทำอะไร แม้แต่มีคนขอให้ไลฟ์สดรายงายสถานการณ์ เราก็ไม่ได้ทำ เพราะพี่นิคเองกับทีมอสรพิษวิทยาพิษณุโลก และครอบครัว ต่างคอยจัดการดูแลเรื่องของอั๋นตลอดเวลา แม้กระทั่งการติดต่อสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พี่นิคก็ไม่มีเวลา และมอบหมายให้พี่สาวและทีมพิษณุโลกเป็นคนให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน

จนกระทั่งทุกอย่างเริ่มคลี่คลายลง คนในครอบครัว ได้มีโอกาสได้คุยกับพี่นิคว่า อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอั๋น เป็นประโยชน์ให้กับคนทั่วไป อยากให้รู้ว่าอั๋นมีความสุขตรงนี้แค่ไหน อยากให้สิ่งที่อั๋นทำได้เกิดความรู้กับคนทั่วไป และอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้คนอื่นๆระมัดระวัง และปลอดภัยมากกว่าเดิม

 

 

และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเข้าใจในเหตุการณ์ มีคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจและมาต่อว่าอั๋นมากมาย นั่นคือสิ่งที่ทำให้พี่นิคตัดสินใจลุกมาทำหน้าที่สร้างความเข้าใจให้กับอั๋นว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร สถานการณ์ตอนนั้นไม่เกี่ยวกับอุปกรณ์ แต่เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ

แต่มุมมองของคนนั้นแตกต่าง เราเข้าใจ และเพราะเรามองเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ เราจึงไม่อยากให้เรื่องราวมันบานปลายตั้งแต่ทีแรก

ค่าใช้จ่ายในการดูแลอั๋นครั้งนี้  มาจากครอบครัว มาจากชมรมอสรพิษวิทยา มาจากพี่นิคและน้องๆในทีมอสรพิษวิทยาพิษณุโลก คุณแม่มีความประสงค์ที่ชัดเจนที่ไม่อยากเดือดร้อนผู้อื่นเด็ดขาด แม้กระทั่งหน.หน่อย หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าพิษณุโลก ได้ฝากช่วยเหลือผ่านพี่นิคมา 5,000 และมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้แอบช่วยผ่านเพจมา 10,000 พี่นิคก็นำมาส่งมอบให้คุณแม่อย่างครบถ้วน ในทีแรกคุณแม่ไม่ยอมรับ แต่สุดท้ายก็รับแล้วส่งมอบให้น้องๆทีมพิษณุโลกไว้ช่วยในการดูแลน้องต่อไป

ที่อธิบายมาทั้งหมด เราอยากให้ทุกท่านเห็นว่า เราอยู่ด้วยกันอย่างไร เรามีเจตนาต่อกันอย่างไร ไม่ผิดที่คนไม่เข้าใจจะมองได้หลายๆมุม แต่คนที่อยู่ด้วยกันนั้นจะเข้าใจทุกอย่างดี ว่าความรู้สึกในเวลานี้ของพวกเราเป็นอย่างไร

ในเมื่อทุกอย่างทรงตัวแล้ว เราคิดว่าก็จะยุติการอัพเดทชั่วคราวไปก่อน รอให้อั๋นมีความเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจน แล้วจะแจ้งทุกท่านอีกที แต่อาจจะยังมีคลิปวีดีโอที่ทำไว้ให้กับอั๋นเพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคมตามความประสงค์ของครอบครัวไว้ให้ดูเพื่อหายคิดถึงกันบ้าง 

 ขอบคุณทุกๆคนในทุกๆเรื่องที่ช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้อั๋นมาโดยตลอด ขอบคุณมากๆครับ

 

 

ขอบคุณ Nick Wildlife