แห่ส่งกำลังใจ แม่น้องการ์ตูน ป่วยซึมเศร้ารุนแรง เตรียมเซ้งร้านสเต็ก

22 ก.พ.67 โลกออนไลน์แห่ส่งกำลังใจ "แม่น้องการ์ตูน"  หลังจากที่ทางเพจเฟซบุ๊ค ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's GrillSteak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ" ได้มีการโพสต์ข้อความและรูปภาพน้องการ์ตูน  “เรามีภาวะโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง หลังจากไปพบคุณหมอจิตเวช"

ซึ่ง น้องการ์ตูน ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากอุบัติเหตุกระบะเมาแล้วขับ เมื่อปี 2557 ต่อมาได้เข้ารับการผ่าตัด และต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง 

โดย แม่น้องการ์ตูน ได้โพสต์ตัดพ้อ หมอจิตเวช เราเล่าว่าเราจะนอนไม่หลับเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณหมอรับฟัง แล้วเราบอกว่าเราต้องทานเบียร์วันล่ะ2กระป่องเพื่อให้หลับ ทุกครั้งที่เราหลับตาจะมีภาพรถชนลูกกับแฟนเสมอ คุณหมอขอแลกยา3ตัวให้กินเพราะรักษาสภาพจิตใจเรา แต่เพราะเรามีปัญหาหลายอย่าง เลิกรักษาอาการซึมเศร้า ตอนนี้อยากบอกทุกคนว่าเราไม่พร้อมที่จะอยู่ใน โลกนี้ เราขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้เราและน้องมาเสมอ ขอบคุณจริงๆ

แต่โลกนี้ไม่เคยยุติธรรมกับครอบครัวเลย ขอนับจากนี้เราไม่ขอเกิดและขอไม่มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว เราเหนื่อยกับชีวิตตัวเอง และขอเอาน้องไปด้วยเลย ขอนับจากนี้ที่ทุกคนช่วยเหลือน้องการ์ตนสุขภาพแข็งแรงมีความสุขมากๆนะคะ”

โดยจากการลงพื้นที่ ไปที่ ร้านสเต็กแม่น้องการ์ตูน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ปากซอยราษฏร์บูรณะ30 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งร้านตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ธนาคารกสิกรไทย โดยร้านเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น โดยใช้ล่างเปิดเป็นร้านสเต็ก

ซึ่งทาง นาย สุรสิทธิ์ อภิรักษ์ฐิติสกุล อายุ 43 ปี  พี่ชายของแม่น้องการ์ตูน กล่าวว่า ปกติแล้วร้านจะเปิดอยู่ตลอดทุกวันแต่เพิ่งจะหยุดขายมาได้ 2 วัน แล้วมาเปิดขายวันนี้ แม่น้องการ์ตูนจะเข้ามาที่ร้านนี้ทุกวันในช่วงบ่าย 2 โมง เขาจะเป็นคนร่าเริงแจ่มใสดี แต่พอน้องการ์ตูนเกิดอุบัติเหตุรถชนก็ป่วยติดเตียงมาโดยตลอด

หลังจาก นั้นแม่น้องการ์ตูนก็เริ่มป่วยซึมเศร้า ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาน้องการ์ตูนแต่ละครั้งก็จะตกอยู่ที่เดือนละห้าหมื่นกว่าบาทแต่ตรงนี้ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ยังไม่รวมรายจ่ายอย่างอื่นด้วยแล้วทีนี้รายจ่ายกับรายรับในแต่ละเดือนก็จะไม่ตรงกัน

เพราะช่วงนี้จะขายของไม่ค่อยจะได้แล้วตรงนี้เมื่อก่อนเป็นทำเลที่ดีแต่พอธนาคารกสิกรสำนักงานใหญ่ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วยอดขายก็ตกลงมาโดยตลอดแล้วยิ่งตอนช่วงโควิด-19ที่ผ่านมายอดขายก็ตกลงมาเรื่อยๆ ตนเองก็ช่วยกันดูแลน้องการ์ตูนอยู่แล้วก็จะเข้าไปหาบ่อยต่องเอาของเข้าไปให้

 

ช่วงนี้ตนเองก็ยอมรับว่ารายจ่ายมันเยอะกว่ารายรับส่วนมากแล้วทางแม่น้องการ์ตูนก็จะคอยปรับทุกข์กับพ่อและแม่แต่ส่วนใหญ่ที่ปรับทุกข์กันก็จะเป็นเรื่องเงิน เพราะเขาหาไม่ทันส่วนตนเองแม่น้องการ์ตูนจะนานๆถึงจะได้ปรับทุกข์กันซักครั้งหนึ่ง