- 11 มี.ค. 2567
อัปเดต เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุด เงินผู้สูงอายุเพิ่มรวม 900บาท โอนเบี้ยผู้สูงอายุ แล้ววันนี้ โอนช่วยเหลือผู้สูงอายุงวดแรก 11-13 มี.ค.2567
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค. 2567 อัปเดตล่าสุด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มี.ค.67 เตรียมรับ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่มรวม 900 บาท ระยะเวลา 9 เดือน เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.นี้ พร้อม อัปเดต บัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ-บัตรคนจน ล่าสุด มีนาคม 67
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่มรวม 900 บาท ในระยะเวลา 9 เดือน เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.นี้ เช็กเงื่อนไขเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย พร้อมตรวจสอบจำนวนเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ตาม วันเดือนปีเกิด ได้เท่าไรบ้าง จำนวนแตกต่างกัน
- เงื่อนไขการรับสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ผู้ที่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ประจำปีงบประมาณ 2567 มีดังต่อไปนี้
- เกิดก่อน 1 มกราคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนมกราคม-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 มีนาคม 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 3 กันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
- เกิดระหว่าง 1 - 31 มกราคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 มีนาคม 2567 จำนวน 200 บาท, ครั้งที่ 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 3 กันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
- เกิดระหว่าง 1 - 29 กุมภาพันธ์ 2507 จะได้รับสิทธิเดือนมีนาคม-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 มีนาคม 2567 จำนวน 100 บาท, ครั้งที่ 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 3 กันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
- เกิดระหว่าง 1 - 31 มีนาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนเมษายน-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท และครั้งสองในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
- เกิดระหว่าง 1 - 30 เมษายน 2507 จะได้รับสิทธิเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 200 บาท และครั้งสองในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
6.เกิดระหว่าง 1 - 31 พฤษภาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนมิถุนายน-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 100 บาท และครั้งสองในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
7.เกิดระหว่าง 1 - 30 มิถุนายน 2507 จะได้รับสิทธิเดือนกรกฏาคม-กันยายน 2567 ซึ่งจะจ่ายในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
8.เกิดระหว่าง 1 - 31 กรกฏาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567 ซึ่งจะจ่ายในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 200 บาท
9.เกิดระหว่าง 1 - 31 สิงหาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนกันยายน 2567 และจะจ่ายในเดือนเดียวกัน จำนวน 100 บาท
- อัปเดต บัตรสวัสดิการเเห่งรัฐ เดือน มีนาคม 2567
โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนมีนาคม 2567 จะได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้
วันที่ 1 มีนาคม 2567 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป) มีรายละเอียด ดังนี้
• วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
(สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ม.ค. - 26 ก.พ. 2567 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 มี.ค. 2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
• วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (มกราคม - มีนาคม 2567)
• วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน/สีม่วง) BTS (สายสีเขียว/สีทอง/สีเหลือง/สีชมพู) ARL (Airport Rail Link/สายสีแดง) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการวันที่ 11 -13 มีนาคม 2567)
• เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อัตรา 100 บาทต่อเดือน (มกราคม - มีนาคม 2567)
วันที่ 11- 13 มีนาคม 2567 เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิ
• วันที่ 11 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม 2495
• วันที่ 12 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2495 - 31 ธันวาคม 2501
• วันที่ 13 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2501 - 29 กุมภาพันธ์ 2507
- ตรวจสอบจำนวนเงินตาม วันเดือนปีเกิด เดือนที่มีสิทธิ /จำนวนเงินที่ได้รับ
• เกิด ก่อน 1 ม.ค. 2507 ม.ค. - มี.ค. 67 /ได้รับเงิน 300 บาท
• เกิด ระหว่าง 1 - 31 ม.ค. 2507 ก.พ. - มี.ค. 67 /ได้รับเงิน 200 บาท
• เกิด ระหว่าง 1 - 29 ก.พ. 2507 มี.ค. 67 /ได้รับเงิน 100 บาท
ผู้มีสิทธิที่ได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) แล้ว ภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับการโอนเงินผ่าน 2 ช่องทาง
1. บัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้)
หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้)
2. กรณีไม่มีบัญชีตาม (1) จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ โดยต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 6 มีนาคม 2567
วันที่ 20 มีนาคม 2567 เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
• สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน
• ต้องยืนยันตัวตนภายในวันที่ 27 ม.ค. - 26 ก.พ. 67 หากไม่ได้ยืนยันตัวตนในวันดังกล่าวจะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ
800 บาท)