- 12 มี.ค. 2567
สาวสุดกลั้นน้ำตาอาบแก้ม เปิดแชท มิจฉาชีพ หลอกเสียเงิน 2.8 ล้าน ก่อนลวงถ่ายคลิปเปลือย ทิ้งประโยคสุดท้ายน่าเจ็บใจ
ผู้สื่อข่าวไทยนิวส์รายงานว่า วันนี้ (12 มี.ค.67) เวลา 11.00 น. ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม น.ส.ศุภรัตน์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาเพื่อร้องขอความช่วยเหลือหลังจากถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมทำเป็นกระบวนการอ้างเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา
ด้านหญิงสาวผุ้เสียหายเล่าว่า กลุ่มมิจฉาชีพใช้กลวิธีล่อให้เธอแอดไลน์เข้าไปคุยด้วย เมื่อเธอหลงเชื่อ แชทไปคุย ฝั่งมิจฉาชีพจึงเริ่มขบวนการหลอกลวงกระทั่งเธอเสียเงินให้ไปกว่า 2.8 ล้านบาท แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจที่สุด ก็คือมิจฉาชีพหลอกว่าจะโอนเงินคืนให้เพียงเธอถ่ายคลิปเปลือยส่งมาให้ แต่เมื่อเธอทำกลับไม่ได้เงินคืนตามที่บอก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สาวร่ำไห้ โดนหลอกโอนเงิน 2.8 ล้าน ต่อรองอยู่นาน โดนลวงถ่ายคลิปเปลือยซ้ำ
นอกจากนี้หญิงสาวผู้เสียหายยังได้เล่าอีกว่า หลังจากที่ตนส่งไปทั้ง 2 คลิปทั้งเห็นหน้าและไม่เห็นหน้าพร้อมส่งเลขที่บัญชีไปเพื่อให้เขาโอนเงินคืนมา แต่กลับได้รับคำตอบว่าไม่โอน ก่อนจะเงียบหายไป ตนพยายามที่จะไล่บี้ถามคำถามก่อนที่จะได้คำตอบมาว่า "ขอบคุณนะสำหรับคลิป ถือว่าเป็นการทำบุญทำทานให้ละกัน"
อีกทั้งบุคคลดังกล่าวยังมีการข่มขู่โดยแจ้งว่าหากตนมีการไปแจ้งความและมีหมายส่งมาจะนำคลิปดังกล่าวนั้นไปปล่อยในโลกออนไลน์
จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ตนนั้นเดือดเนื้อร้อนใจเพราะตอนนี้ตนไม่มีแม้แต่เงินที่จะให้ลูกหรือให้แฟนไปลงทุนต่อแค่จะกินข้าว 1 มื้อยังไม่มี ต้องมากินข้าวบูดค้างวัน ตนเคยมีความคิดที่ว่าจะขายตัวและคิดสั้นอยู่ตลอดเวลา ในวันนี้จึงมาร้องขอเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองและมองว่าไม่มีอะไรที่จะต้องเสียอีกแล้วตนไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเงินคืนแต่ต้องการให้ตำรวจจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้
ด้าน นายรภัสสิทธิ์ ภัทรศิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่าหลังจากนี้ทางมูลนิธิฯ จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ต่อไป โดยจะให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมิจฉาชีพมารับโทษโดยเฉพาะคนที่บอกว่าจะเอาคลิปของผู้เสียหายไปเผยแพร่ต้องเอาตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุดและเร่งให้รีบออกหมายเรียกบัญชีม้ามาดำเนินคดีและรับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็วที่สุดเช่นกัน