หมอพบสุข ลูกชายอดีต สส.เร่ร่อน มาตามสัญญา พบหน้าพ่อครั้งแรกในรอบ 33 ปี

จากกรณีที่ กัน จอมพลัง ได้พยายามตามหาญาติของ นายสม วาสนา อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นอดีต สส.พรรคสยามใหม่ ในสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี แต่บั้นปลายชีวิตกลายเป็นคนเร่ร่อน สติไม่ดี หลงๆ ลืมๆ ไร้ลูกหลานดูแล จนสุดท้ายเพื่อนได้พามาฝากไว้ที่บ้านของหมอปลา ในพื้นที่ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เป็นเวลานานกว่า 5 ปี

 

ก่อนที่ต่อมา กัน จอมพลัง ได้ช่วยตามหาญาติจนสามารถติดต่อกับลูกชายคนหนึ่งของคุณตาสมได้ ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญอย่างเหลือเชื่อ เมื่อลูกชายของคุณตาสมเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านโรคประสาท เปิดคลินิกอยู่ที่ จ.เชียงราย 

ซึ่งทาง นพ.พบสุข ตันสุหัช อายุ 38 ปี เปิดเผยว่าไม่ทราบว่านายสมเป็นพ่อ เพราะพ่อได้แยกไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่หมออายุได้เพียง 5-6 ขวบ ความทรงจำมีมีเพียงคุณแม่ เติบโตและเล่าเรียนมาได้ตามปกติ จึงไม่ได้มีการติดต่อไปยังคุณพ่อเลยตลอดทั้งชีวิต กว่า 33 ปีที่ผ่านมา 

ซึ่ง หมอพบสุข ระบุอีกว่า ยินดีที่จะช่วยเหลือในการรักษานายสม ที่มีอาการทางสมอง เพราะตัวเองก็เป็นแพทย์เฉพาะทางด้านนี้พอดี ซึ่งถ้าเคลียร์งานได้ ก็จะรีบไปหาคุณพ่อที่บ้านหมอปลาทันที

ล่าสุดในวันที่ 13 มี.ค. 2567 หมอพบสุข ได้เดินทางไปพบคุณพ่อครั้งแรกรอบ 33 ปี โดยทางเพจเฟซบุ๊ก กัน จอมพลัง ได้เผยภาพการพบกันของพ่อลูก โดยหมอพบสุข ได้เดินทางมาพบกับนายสม แต่ว่านายสมไม่สามารถจดจำลูกคนนี้ได้แม้แต่น้อย แต่บอกว่าไปคัดเลือกหนุ่มที่ไหนมา งามหล่อ โดยทางคุณหมอก็ยืนยันว่าจะรักษาพ่อให้หายให้ได้

 

ทั้งนี้ หมอพบสุข กล่าวว่า จากการพูดคุยกับทางคุณพ่อ เห็นหลายๆอย่าง น่าจะมีปัญหาสมองเสื่อม อาจจะไม่เยอะมาก ระดับกลาง แต่ปัญหาที่โดดเด่นคือมีหลงผิด หูแว่ว บางครั้งมีการพูดคนเดียว ตรงนี้น่าจะมีปัญหาตรงนี้ด้วย ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของโรคสมองเสื่อม หรือมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตร่วมด้วย เนื่องจากความเครียด อาจจะโดนทิ้งหรือไม่ ที่ทำให้ป่วยทางจิตเพิ่มเติม แน่นอนว่าการรักษาก็ต้องดำเนินการไป 

หลักๆตอนนี้คือเรื่องการทานยา ตนได้แพลนกับทีมงานและปรึกษาคุณหมอจิตแพทย์ด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร ก็จะจัดสูตรยาให้ และต้องให้ท่านกินยา แต่ท่านแอนตี้ยา แต่ต้องหลอกล่อให้กินยา เพราะถ้าไม่กินก็จะทำให้อาการไม่ดีขึ้น จะพยายามประสานกับทีมรักษา ดูแลว่าจะรักษาอย่างไร ซึ่งคนที่คุณพ่อเชื่อคือหมอปลา แต่เนื่องจากอายุเยอะ จะใช้ยาแรงไม่ได้ ต้องไปช้าๆ ไม่มีผลข้างเคียง อาจไม่ถึงขั้นหาย แต่ว่าจะค่อยๆดีขึ้น ดังนั้นก็ต้องมีการอัปเดตกันไป