- 19 มี.ค. 2567
เพจเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท แฉ หน้าเว็บไซต์ ประกาศขายข้อมูลกว่า 2.2 ล้านชื่อ อ้างเป็นข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุขของไทย
เพจเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกมาโพสต์ภาพหน้าเว็บไซต์ ประกาศขายข้อมูลกว่า 2.2 ล้านชื่อ อ้างเป็นข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุขของไทย ถูกขายในราคา 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 360,000 บาท โดยระบุว่า
ครบรอบ 1 ปี แฮกเกอร์ 9near พอดี ความเหมาะเจาะที่น่ากังขา มีการประกาศขาย ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ชื่อสกุล มือถือ เลขบัตรประชาชน และ วันเดือนปีเกิด 2.2ล้าน user ในราคา 10,000 USD
ความคืบหน้าคดีแฮกเกอร์ 9near ที่สุดท้ายจ่ารับว่าทำคนเดียว ไม่รู้ถึงไหนแล้ว ส่วนกรณีใหม่ครั้งนี้ หลุดจากไหน อย่างไร ขอให้กระทรวงสาธารณสุขสืบสวนและเร่งปิดจุดอ่อนด่วน
ไม่รู้เหมือนกันว่าหลุดเพราะแฮกเกอร์หรือว่าคนใน
จาก 9near ถึง GOD user ข้อมูลขายถูกๆ
มีนาคม2566 web 9near ประกาศขายข้อมูลบุคคล 55ล้าน record ที่หลุดจาก สธ. เชื่ิอว่าหลุดตรงข้อต่อระหว่างการส่งข้อมูล สธ.กับหมอพร้อม
มีนาคม2567 มีการโพสต์ขายข้อมูลผู้ป่วยของ สธ.อีก 2.2ล้าน record หลุดจากไหนยังไม่รู้ รอดูการแถลงบอกกล่าวสังคมจากปลัด สธ. ว่าหลุดจากไหน
เสียงบ่นของหลายโรงพยาบาลบอกว่า ”cyber-security เป็นเรื่องใหญ่มาก โรงพยาบาลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เก่งมาก ปลัด สธ.ก็มีนโยบายสั่งให้ทุกโรงพยาบาลทำเรื่องนี้ สั่งมาแบบกระดาษแผ่นเดียว แต่ไม่มีงบให้มาสักบาท จนถึงวันนี้ก็ไม่มีงบใดๆมาจากส่วนกลาง ทุกโรงพยาบาลต้องดิ้นรนเอาเอง แล้วแบบนี้จะรอดไหม“
ข้อมูล สธ. หลุดทีละเป็นล้านๆรายการ จึงยังมีให้เห็นอีกแน่ๆ
กระทรวง DES มาแล้ว ข้อมูลหลุดจากไหน??
แหล่งข่าว ยืนยันว่า วันนี้ ช่วงบ่าย ทางศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้เชิญ DPO สาธารณสุข ( Data Protection Officer) ชี้แจง ในเรื่องข้อมูลบุคคลของกระทรวงสาธารณสุข 2.2ล้าน record ทึ่เพิ่งหลุดไปขายใน dark website (อีกแล้ว)
สิ่งที่ดีที่น่าสนใจคือ ทีมตำรวจไซเบอร์หรือทีมผู้เชี่ยวชาญจาก eagle eye กระทรวงDES จะได้มาสืบหาจุดที่ข้อมูลหลุด ซึ่งสมมุติฐานตอนนี้คือรั่วในจุดข้อต่อมี่ใช้ส่งฐานข้อมูล digital footprint มีให้เห็นแน่ สืบไม่ยาก ขอเป็นกำลังใจให้ทีม eagle eye ให้สู้ๆ งานนี้เหมือนง่าย แต่จริงๆคงไม่ง่ายแน่
ตามกฏระเบียบของกระทรวง DE เต้าของข้อมูลที่หละหลวมข้อมูลหลุด จะมีบทลงโทษทางปกครองได้ด้วย
วันนี้แพทย์ชนบทมีข้อมูลเท่านี้ ที่เหลือคงต้องรอการแถลงของกระทรวงสาธารณสุขกันครับ