- 05 เม.ย. 2567
หนุ่มรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความ แชร์ประสบการณ์ การตรวจมิเตอร์เคสค่าไฟแพงต่างๆมาตลอด 2 ปี บอกเลย สาเหตุหลายบ้านมองข้าม
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Icee Phornpon Sanprasert ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์หลังทำงานตรวจมิเตอร์มา 2 ปี เจอแล้ว สาเหตุค่าไฟแพง บางบ้านไม่เคยรู้
ไหนๆก็ได้ย้ายแผนกละ เลยจะเล่าประสบการณ์การตรวจมิเตอร์เคสค่าไฟแพงต่างๆมาตลอด 2 ปี เก็บไว้เผื่อให้ตัวเองดูตอนแก่
ตอนนี้อากาศมันร้อนอะเนอะ แล้วมันก็จะมาพร้อมกับค่าไฟที่แพงขึ้น
จากประสบการณ์ที่ตรวจมิเตอร์มาเป็นพันๆเครื่อง
ค่าไฟแพงเนี่ย ส่วนตัวขอแยกสาเหตุหลักๆ 2 พาร์ทละกัน
- 1 ใช้ไฟจริง
- 2 ตัวมิเตอร์เอง
1 ใช้ไฟจริง
ส่วนใหญ่ก็มากจาก เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟมากขึ้นจากสภาพอากาศ
คือเกือบทุกบ้าน สถิติค่าไฟจะมาเพิ่มขึ้นแถวๆเดือนมีนาคม พีคๆเลย ก็เมษายน แล้วก็ พฤษภาคม จะเบาลงหน่อย ยิ่งบ้านไหนมีเด็กจะยิ่งเห็นชัดเจน เพราะปิดเทอม!!!!
หลักๆก็มาจากอากาศร้อนนั้นแหละ อากาศร้อน ตู้เย็นก็ทำงานเยอะ แอร์ก็ทำงานเยอะ เพราะกว่าจะทำงานถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ มันก็ใช้เวลามากกว่าตอนที่อากาศไม่ร้อน
ตู้เย็นนี่ ไม่พูดถึงไม่ได้ บางคนคิดว่ามันไม่น่ากินไฟขนาดนี้ นี่เคยไปตรวจบ้านนึง จังหวะเดินดูเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอยู่ เห็นเด็กน้อยในบ้านไปเปิดตู้เย้น หยิบนู้นนี่ เป็นเกือบ10รอบ ในระยะเวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมง แน่นอนว่ามันต้องทำงานเพิ่มขึ้น
เลยวิเคราะห์ได้ว่าบ้านไหนมีเด็กที่ใช้เวลาอยู่ในบ้านเยอะ มีโอกาสที่ค่าไฟจะสูงขึ้น
แล้วก็เคยเจอตู้เย็นแม่งทำงานแล้วไม่ตัดวงจร คือคอมเพรสเซอร์แม่งทำงานค้างอยู่อย่างนั้นแหละ ไอ่เราก็นั่งเฝ้าตั้งนาน (ระหว่างเฝ้าก็จับกระแสดูด้วย) เกือบ20นาที แม่งไม่ตัดซักที เลยเจ้าของบ้านถอดปลั้กออกแล้วเสียบใหม่ เออ ทำงานเป็นปกติ คือคอมทำงานไปซักพัก แล้วก็หยุด ไม่ถึง20นาที เหมือนทีแรก
*** ถ้าไม่ลำบากมากนัก อุปกรณ์ในบ้าน ลองสังเกตุกันซักหน่อย ตู้เย็นก็ลองถอดปลั๊กมันทิ้งไว้บ้างซัก 2-3 นาที เผื่อเซนเซอร์ทำความเย็นแม่งเพี้ยน
- ตัวต่อไป แอร์
เวลาเราเปิดเนอะ สมมุติเราตั้งไว้ 25 เงี้ย แล้วอากาศในห้องเราก่อนเปิดแอร์ 35 เพราะข้างนอกมันร้อนหนิ มันก็ต้องทำงานนานกว่าเดิม กว่าจะได้ 25 องศา **แนะนำว่าก่อนเข้าเดือนมีนาคม ล้างแอร์ซักรอบ1 เพื่อให้มันทำงานได้เต็มที่ในช่วงหน้าร้อนนี้
**แล้วก็แนะนำอีกอัน
แอร์เก่า แอร์มือสอง เอามาติดตั้งใหม่ ถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงเพราะ มันกินไฟ!!!
แนะนำไปซื้อแอร์ใหม่มาติดตั้งจบกว่า ไม่ปวดประสาท
อีกอัน ปั๊มน้ำ แบบต่างๆ
เจอบ่อยๆเลยคือ ทำงานไม่ตัด ทำอยู่อย่างนั้นแหละ สาเหตุเจอบ่อยๆคือ ท่อน้ำรั่วจุดใดจุดนึงในบ้าน และจุดรั่วส่วนใหญ่อยู่ใต้ดิน ทีนี้ก็หาแม่งไปเถอะ
**สังเกตุการทำงานของปั๊มที่บ้านตัวเองด้วย ว่ามันทำงานแล้วตัดการทำงานหรือไหม เพื่อเป็นการประหยัดไฟและน้ำในบ้านท่าน
ต่อไป ไฟรั่ว อันนี้ทีเด็ด เพราะแม่งรั่วได้หมดทุกจุดที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟพาดผ่าน
- รั่วจากปั้มน้ำบ่อบาดาลรุ่นเก่าก็เคยเจอ
- รั่วจากสายไฟ ที่ลากไปกะพื้น เพื่อเปิดไฟดักแมลงก็เคยเจอ
- รั่วจากสายไฟพาดบนฝ้า เพราะไม่ใส่ท่อ ก็เคยเจอ **ใครว่างๆ เปิดฝ้าบ้านตัวเองดู สายไฟเดินรุงรังไหม เผื่อเจอแจ็คพอต
- รั่วจากกาต้มน้ำอันที่เหมือนใน 7/11 แต่อันใหญ่กว่าหน่อย อันนี้เจอที่วัด
- ตู้เย็นกินไฟ อันนี้ตรวจเจอเห็นว่ามันกินกระแสเยอะเกิน เลยถามเจ้าของบ้าน ได้ความว่า ฝนตกแล้วน้ำท่วม แล้วมันแช่อยู่ในน้ำมา1อาทิตย์ ทีนี้รอให้มันแห้ง แล้วมาเปิดใช้ สรุปแม่งกินไฟกว่าเดิมสามสี่เท่า
เคสไฟรั่วที่เล่าเนี่ย ส่วนใหญ่เจอช่วงที่ไม่ใช่ฤดูร้อน
มาต่อ ข้อ2 ตัวมิเตอร์
ตอนนี้มีมิเตอร์ 2 ประเภทเนอะ คือ จานหมุน กับ ดิจิตอล
เอาจานหมุนก่อน จานหมุนเนี้ย ค่าไฟจะแพงจากมิเตอร์ประเภทนี้ได้คือ
จดหน่วยผิด และ ขดลวดในมิเตอร์ไหม้
ซึ่งจดหน่วยผิดเนี่ย ตัวเราทุกคนสามารถเชคได้เอง จากบิลค่าไฟ ว่าหน่วยในบิลเนี่ย มันตรงกับหน้ามิเตอร์ไหม ส่วนใหญ่จะจดเกิน ซึ่งสามารถให้ไฟฟ้าแก้ไขบิลได้
ขดลวดไหม้ อันนี้คนทั่วไปอาจจะดูไม่เป็น ทางที่ดีเรียกช่างจากการไฟฟ้ามาดูชัวร์สุด
ต่อ ดิจิตอล
อันนี้ ที่เคยเจอ เป็นกับวงจรตัวมิเตอร์เลย ต้องให้ช่างการไฟฟ้ามาตรวจถึงรู้
ไม่มีผิดพลาดเรื่องจดหน่วย เพราะมิเตอร์ดิจิตอลที่ติดตามบ้านมันส่งหน่วยด้วยสัญญาณบลูทูธ ไม่มีทางผิดแน่นอน
อันนี้ต้องดูด้วยนะว่ากรณีไหน คือติดตั้งมิเตอร์ดิจิตอลตั้งแต่ทีแรก แล้วค่าไฟแพง
หรือเปลี่ยนมิเตอร์ดิจิตอลแล้วถึงแพง ถ้าเป็นอย่างหลัง มีโอกาสเป็นได้ว่า มิเตอร์เครื่องเก่ามันหมุนช้าหรือหมุนติดขัด ทำให้ค่าไฟถูก พอเปลี่ยนมิเตอร์ใหม่มันคิดการใช้ไฟถูกต้อง ก็เลยพาลคิดไปเอง ว่าใช้ไฟเท่าเดิม แต่เสียค่าไฟมากขึ้น