- 09 เม.ย. 2567
"ครูหนิง" เจ้าของวลี 'ของดีของอร่อยมันก็ต้องแพงอะค่ะ' โดนสามีทหารอากาศแฉกลับ คนที่มีชู้ตัวจริง คือครูหนิงเอง
เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยจำกันได้ในกรณีของ ครูหนิง ข้าราชการครู ที่จับได้ว่าสามีทหารอากาศมีเมียน้อย ก่อนจะไปออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 จนกลายเป็นกระแสข่าวเด่นประเด็นดัง
จนการยื่นข้อเสนอ ถ้าจะหย่าขอ 6 ล้าน ถ้าไม่หย่าก็จ่ายมาเดือนละ 3 หมื่น แต่เมียน้อยไม่ยอม พร้อมกับมีวลีเด็ดตามมาคือ "สามีพี่ กินดี กินอร่อย ผัวพี่แซ่บ ผัวพี่กินดี กินอร่อย ของดีของอร่อยมันก็ต้องแพงอะค่ะ" จนสุดท้ายเรื่องจบลงที่ครูหนิงฟ้องชู้ และศาลตัดสินให้คู่กรณีจ่ายค่าทดแทนจำนวน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
ทว่าล่าสุดมีรายงานจาก รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่า น้ำพุ สามีครูหนิง ขอออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างหลังเวลาผ่านไปร่วมปี ซึ่งแจงว่าสาเหตุที่ยังไม่ตอบกลับและปล่อยเวลาล่วงเลยมานานนับปี เพราะตอนนั้นยังรับราชการเป็นทหารอากาศอยู่ แต่ตอนนี้ลาออกจากราชการแล้ว และเรื่องระหว่างตนกับครูหนิงยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้องกันไปมา
โดย น้ำพุ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เป็นข่าวเมื่อต้นปี 2566 ตนใช้ชีวิตลำบากเพราะถูกสังคมตราหน้าว่าคบชู้ และทำให้หน่วยงานต้นสังกัดกระทบไปด้วย จึงตัดสินใจลาออกจากราชการมาเดินหน้าต่อสู้คดี
สามีครูหนิง บอกว่า ในส่วนคลิปที่ครูหนิงบุกเข้าไปเจอชุดชั้นใน เสื้อผ้าผู้หญิง และของใช้ผู้หญิงในบ้านตนนั้น ตนถูกจัดฉาก และเชื่อว่าครูหนิงมีการเตรียมของเหล่านี้มาก่อนแล้ว เพราะตนนั่งดูคลิปหลายรอบ พบพิรุธหลายอย่าง เช่นรูปถ่ายครูหนิงที่ติดอยู่บนฝาผนัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มี แถมเสื้อผ้าของครูหนิงก็เพิ่งมายัดใส่ตู้ ชุดชั้นในที่ครูหนิงเจอก็เป็นของใหม่แกะกล่อง ไม่เคยมีในห้องตนก่อนหน้านี้
เพียงสิ่งเดียวที่เป็นของ เจ๊น้ำ คือเสื้อผ้า เพราะเจ๊น้ำจ้างพี่สาวตนซักรีด แต่ของอย่างอื่นไม่ใช่ ตนสังเกตว่าเป็นการบุกบ้านมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน โดยจัดฉากขึ้นให้ดูเหมือนตนคบชู้กับเจ๊น้ำ
สามีครูหนิง อธิบายต่อไปอีกว่า ส่วนเรื่องคลิปเสียงของเจ๊น้ำที่ยอมรับว่าเคยมีอะไรกับตนนั้น น้ำพุขอยืนยันว่าตนไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ๊น้ำ แต่มันเป็นเรื่องที่เตี๊ยมกันมาก่อน ตนไปขอให้เจ๊น้ำช่วยเพื่อเป็นการลองใจ เพราะก่อนจะเกิดเรื่อง ตนกับครูหนิงมีปัญหาระหองระแหงกันมานาน
สามีครูหนิง บอกว่า ตนอยากเลิกกับครูหนิงแต่ยังตกลงเรื่องหย่าไม่ได้ อีกทั้งคลิปที่ครูหนิงนำมาเปิดก็ไม่ใช่คลิปเต็ม ที่มีความยาว 17 นาที โดยช่วงท้ายที่ครูหนิงคุย ก็รู้อยู่แล้วว่าที่เจ๊น้ำพูดมาเป็นเรื่องโกหก อีกทั้งครูหนิงก็เคยบอกตน ว่ารู้แล้วว่าเรื่องที่โกหกว่าไปมีอะไรกับคนอื่น แถมยังถามด้วยว่าทำไมตนต้องทำขนาดนี้ เพียงเพราะอยากหย่า
นอกจากนี้ น้ำพุ สามีครูหนิง ยังยืนยันว่าไม่ได้คบหากับเจ๊น้ำแบบชู้สาว ตนอยู่ในฐานะเหมือนลูกจ้างเจ๊น้ำด้วยซ้ำ เพราะตนรับจ้างเดินระบบไฟฟ้า ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้านเจ๊น้ำ ซึ่งครูหนิงก็รู้อยู่ตลอด แถมตนยังแบ่งค่าจ้างให้ครูหนิงด้วย แต่สาเหตุหลักที่วันนี้ต้องออกมาพูด ก็เพื่อกู้คืนศักดิ์ศรีให้ตนเอง และต้องการบอกกับสังคมว่า จริงๆ แล้วคนที่นอกใจไม่ใช่ตน แต่เป็นครูหนิงต่างหาก
โดยย้อนกลับไปช่วงที่มีการออกโหนกระแส ตนกับครูหนิงแยกกันอยู่ เรื่องฟ้องชู้ ฟ้องหย่า ก็ยังอยู่ในกระบวนการชั้นศาล แต่ระหว่างนั้นประมาณเดือนกันยายน 2566 ตนเริ่มรู้จากคนรอบข้างว่าครูหนิงมีความสนิทสนมกับทหารอากาศนายหนึ่ง ยศผู้หมวด ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตน ถึงขั้นกอดคอกินเหล้าไปไหนไปกัน
ตอนแรกตนก็ยังไม่มั่นใจ จนคนใกล้ชิดเริ่มพูดกันหนาหูและมีภาพหลุดออกมาบ้าง ว่าทั้งคู่ไปกินข้าว ไปไหนมาไหนกันสองต่อสอง กดหัวใจในเฟซบุ๊กกันตลอด จากนั้นในวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ตนได้ขับรถไปบ้านผู้หมวดเพื่อนรัก กลับพบรถของครูหนิงที่ยังมีสถานะเป็นภรรยาตน จอดอยู่ด้านในบ้าน เพื่อให้แน่ใจตนจึงไปแอบฟัง ก็ได้ยินทั้งคู่คุยกันกระหนุงกระหนิง ทำกับข้าวกินกัน และนั่งดูซีรีส์กันอย่างสนุกสนานหวานชื่น
ตอนนั้นตนยืนฟังอยู่หน้าบ้านก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เลยโทรศัพท์ตามพี่สาวให้มาสังเกตการณ์แทน ส่วนตนไปจอดรถเฝ้าอยู่อีกจุดใกล้ๆ ปรากฏว่าครูหนิงอยู่ในบ้านของเพื่อนตนทั้งวัน ไม่ได้ออกมาเลย จึงมั่นใจว่าทั้งคู่น่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน วันนี้ตนจึงต้องการฟ้องชู้กับภรรยาบ้าง และอยากให้สังคมรับรู้ความจริงว่าคนที่แอบมีชู้ไม่ใช่ตน แต่เป็นครูหนิงต่างหาก
ขณะที่ฝ่าย ครูหนิง เผยว่ายินดีชี้แจงทุกประเด็น ขอถามกลับในเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าจัดฉากเรื่องชุดชั้นในผู้หญิงในบ้านสามี ขอถามกลับว่า ผู้หญิงคนหนึ่งจะจับชู้สามีจำเป็นต้องลงทุนขนาดนั้นเลยหรือ ตนจะทำไปเพื่ออะไร แต่ยอมรับว่าวันนั้นมีการนำเสื้อผ้าและของใช้ รวมถึงรูปถ่ายของเธอไปไว้ที่ห้องนอนของสามีเพื่อต้องการทวงสิทธิ์ ทวงพื้นที่และประกาศให้ชู้รู้ว่าตนคือภรรยา และหากเป็นของที่ตนนำไปจัดฉากจริง เหตุใดสามีต้องฟ้องตนในข้อหาทำให้เสียทรัพย์
อีกทั้งในคดีที่ตนฟ้องชู้เจ๊น้ำ ศาลชั้นต้นก็พิพากษาแล้วว่าให้เธอเป็นฝ่ายชนะ ทำให้อีกฝ่ายต้องจ่ายค่าเสียหาย 500,000 บาท ซึ่งเธอก็ทราบว่าทางเจ๊น้ำจะยื่นอุทธรณ์ แต่คงขออุทธรณ์ยืดเวลาจ่ายเงินมากกว่า ไม่น่าจะเปลี่ยนคำพิพากษาของศาลได้ ตนจึงไม่กังวล
ส่วนเรื่องที่สามีอ้างว่าเธอมีผู้ชายใหม่ เป็นเพื่อนสนิทของสามี ครูหนิงชี้ว่าตั้งแต่มีเรื่องฟ้องชู้ เธอก็ไปติดต่อเพื่อนของสามีทุกคนเพื่อสืบข้อมูลของสามีและหญิงชู้ จนต้องสนิทกับเพื่อนของสามีไปด้วย 6-7 คน แต่คนที่สามีสงสัยที่สุด คือ หมวดตุ้ย แต่เธอยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว แค่คุยและปรึกษากันเรื่องฟ้องชู้สามีเท่านั้น และบางครั้งที่เธอต้องไปตามสืบเพื่อให้ได้หลักฐาน ก็มีบ้างที่ต้องนำรถไปจอดไว้บ้านเพื่อนสามี แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรเกินเลย
อย่างไรก็ตาม ครูหนิง เผยว่า ตอนนี้สามีตั้งเรื่องฟ้องชู้เธอแล้ว แต่เธอก็พร้อมสู้ตามกระบวนการยุติธรรม