- 24 เม.ย. 2567
"พี่ตุ๋ย" ในมุมมองของ เช็ค - สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ อดีตพิธีกร ‘คน ค้น ฅน’ หลัง เปิดตัวในฐานะ อาสาสมัคร พรรครวมไทยสร้างชาติ
เช็ค - สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ โปรดิวเซอร์และอดีตพิธีกรในรายการ “คน ค้น ฅน” ที่ให้เกียรติเปิดตัวในฐานะ ‘อาสาสมัคร’ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ บนเวทีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ‘พี่เช็ค’ ถือเป็นอีกอาสาสมัครคนสำคัญที่ช่วยงานอยู่เบื้องหลังมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรค และยังเป็นผู้ผลิตมินิซีรีส์ชุด “จุดไฟในพายุ” เส้นทางต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ที่ได้เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้และได้รับกระแสชื่นชมอย่างมากมาย
จากชายผู้ไม่เคยสนใจการเมืองมาก่อนเลยในชีวิต แต่วันนี้ ‘พี่เช็ค’ ได้เข้ามาเป็นหนึ่งของทีม ‘อาสามาด้วยใจ’ ซึ่งเป็นจิตอาสาทำงานช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานของพรรคให้ประชาชนได้รับทราบ อะไรคือจุดเปลี่ยนครั้งนี้ เรามาติดตามกัน
เช็ค – สุทธิพงษ์ เล่าว่า ตอนที่ท่านพีระพันธุ์ หรือที่ตนเรียกติดปากว่า ‘พี่ตุ๋ย’ ได้ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ทางทีมงานของพี่ตุ๋ย มีแนวคิดที่จะแนะนําตัวพี่ตุ๋ยกับประชาชน โดยจะเน้นไปที่ผลงานหรือสิ่งที่พี่ตุ๋ยเคยใช้เคยทำมาในอดีต รวมถึงต้นทุนที่ตัวเองมีในการทําหน้าที่ทั้งช่วงที่เป็นข้าราชการและนักการเมือง
ในตอนนั้น ทีมงานมาหาและถามว่า สามารถช่วยทําสิ่งนี้ได้หรือไม่ ซึ่งในขณะนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าโดยส่วนตัวแล้ว ตนเป็นคนที่พยายามจะอยู่ห่างการเมือง เพราะเคยเข้าไปสัมผัสแล้ว มีความรู้สึกว่า เคมีไม่เข้ากัน ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบนักการเมือง แต่ไม่ชอบความเป็นนักการเมืองหรือว่าวัฒนธรรมของนักการเมืองมากกว่า
แต่ทว่า ยังมีอีกหนึ่งโจทย์ คือ ให้ไปทำเรื่องที่ช่วยคนเล็ก ๆ คนยากคนจน เพื่อให้คนได้เห็นความหมายของการมีชีวิตและช่วยให้คนเหล่านั้นได้รับความยุติธรรม จึงก็รู้สึกว่า เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ตนพอทําได้ จึงได้รับจะไปทำงานนี้
และจากการที่ต้องเริ่มต้นค้นหาที่มาที่ไปของปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะนำพาไปสู่วิธีการคิดในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการได้ทำงานร่วมกันกับทีมงานของพี่ตุ๋ย จึงทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีและประทับใจมาก นั่นเพราะ พี่ตุ๋ยไม่ได้ใช้อํานาจ ไม่ได้ใช้ความเป็นผู้ยิ่งใหญ่เข้าไปแก้ปัญหา แต่ว่าพี่ตุ๋ยกลับใช้หัวใจ คือความรู้สึกที่อยากจะช่วยคนเหล่านั้นจริง ๆ ขณะเดียวกัน ในการไปช่วยนั้น จะไม่ข้ามหน้าข้ามตาใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งพี่ตุ๋ยจะให้เกียรติแล้วก็ใช้กลไกเหล่านี้ในการแก้ปัญหา
และสิ่งที่น่าประทับใจมากไปกว่านั้นก็คือ ทุกคนที่พี่ตุ๋ยยื่นมือเข้าไปช่วยไม่ว่าจะทางตรงทางอ้อม ไม่ว่าจะใช้วิธีการไหนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งก็คือ คน ๆ นั้นจะหลุดพ้นจากปัญหานั้นจริง ๆ ซึ่งเรารู้ดีว่า สิ่งแบบนี้มันเกิดขึ้นกับคนเล็กคนน้อยได้ยากมาก และพอเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่งนั่นย่อมมีความหมายต่อชีวิตเขามาก แน่นอนว่า ประชาชนทุกคนต้องการสิ่งแบบนี้จากผู้นําหรือว่าผู้ปกครองทุกคนเช่นกัน นั่นหมายความว่า อย่างน้อยที่สุด ปัญหาที่เขามีนั้น ได้รับการดูแลและเอาใจใส่สมกับที่เขาคาดหวัง
เช็ค – สุทธิพงษ์ บอกเล่าถึงความประทับใจในการทำงานช่วยเหลือชาวบ้านในฐานะจิตอาสา ขณะเดียวกัน ยังบอกถึงสิ่งที่ประทับใจในตัวพี่ตุ๋ย ก็คือ ทุกครั้งที่ได้คุยกัน ข้อมูลที่ได้จะเหมือนกันทุกครั้ง ไม่มีผิดเพี้ยนเหมือนกับเขียนสคริปต์ไว้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรครั้งไหน ก็จะเหมือนเดิมทุกอย่าง ซึงนั่นหมายความว่า สิ่งที่ถ่ายทอดออกมานั้น ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่ง ไม่ต้องมาคิด ไม่ต้องปั้นแต่งให้ดูดี แต่ทุกสิ่งที่กล่าวออกมานั้นล้วนแต่เป็นประสบการณ์ทำงานจริง
“ผมเคยเจอนักการเมืองเยอะ ผมมีเพื่อนที่เป็นนักการเมือง มีรุ่นพี่ที่เป็นนักการเมือง เรียกได้ว่าโคตรการเมืองเลย แต่สำหรับพี่ตุ๋ย ผมกลับมีความรู้สึกว่าไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่คนที่พูดเท่ ๆ เพื่อที่จะให้ได้คะแนน แต่เป็นคนที่อยากใช้สิ่งที่ตัวเองมี ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อประชาชนจริง ๆ ตลอดเวลาที่สัมผัสได้ทำงานร่วมกัน ทำให้ผมเชื่อได้สนิทใจเลยว่า คน ๆ นี้แหละที่สามารถฝากความหวังได้และประเทศไทยขาดคนแบบนี้จริง ๆ”
พร้อมกันนี้ เช็ค – สุทธิพงษ์ ยังได้เล่าถึง การทำมินิซีรีส์ชุด “จุดไฟในพายุ” เอาไว้อย่างน่าสนใจ ว่า เมื่อได้สัมผัสได้พูดคุยกับพี่ตุ๋ยจนเกิดความประทับใจ จึงอยากจะทําชีวประวัติหรือความเป็นมาของพี่ปุ๋ย เพราะว่าไม่เคยมีใครรู้จักท่านเลย ทําให้ได้มีโอกาสไปนั่งฟังพี่ตุ๋ยเล่าชีวิต ซึ่งสิ่งที่พี่ตุ๋ยเล่ามานั้น ทำให้เห็นภาพชัดว่า ทําไมพี่ตุ๋ยถึงเป็นเป็นแบบนี้ ทําไมถึงคิดแบบนี้ และหากสกัดเนื้อหาดี ๆ จากชีวประวัติสั้น ๆ ไม่กี่นาที 4 - 5 ตอนนี้ จะสะท้อนเรื่องราวและทำให้เห็นว่า
“นับวันพี่ตุ๋ยยิ่งเหมือนเป็นทองแท้ที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ยิ่งทําคนยิ่งเห็น ยิ่งทําคนยิ่งรัก ยิ่งทําคนยิ่งพูดถึง ยิ่งแสดงให้เห็นความตั้งใจความมุ่งมั่น แล้วทุกอย่างที่ทำมานั้น ต้องเรียกว่าโคตรฝีมือเลย เพราะฉะนั้น ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็เห็นสิ่งนี้ ”
ขณะเดียวกัน เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ในตัวพี่ตุ๋ย ก็จะเห็นอีกสิ่งหนึ่งในตัวของคนที่อยู่ในเวทีเดียวกันด้วย เพราะจะเกิดการเปรียบเทียบอย่างแน่นอน แม้ว่าตัวพี่ตุ๋ยจะพูดมาตลอดว่าไม่ได้มาแข่งกับใครต่างคนต่างทำงาน แต่การตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ยิ่งทําให้คนรักและศรัทธา
เช็ค – สุทธิพงษ์ ย้ำด้วยว่า ตอนนี้พูดได้เต็มปากเต็มคําว่า ชื่นชมและให้กำลังใจพี่ตุ๋ยอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้เข้ามาเป็นอาสาสมัครเป็นทีมงานจิตอาสาช่วยด้านประชาสัมพันธ์ ซึ่งตลอดชีวิตที่ผ่านมา ยังไม่เคยทํามาก่อนเลย แต่ครั้งนี้ขอมีส่วนร่วมช่วยให้พี่ตุ๋ยได้ทําให้ประเทศชาตินี้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นต่อไป