ราชกิจจาฯประกาศ เพิ่มอาการสำคัญของ "วัณโรค" ดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๗ เพิ่มเติมอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตรายกรณีวัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก ระบุ

 

โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตรายกรณีวัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก (Extensively drug - esistant tuberculosis (XDR - TB) เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง  ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖ (๑) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ  ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๗"

ข้อ ๒  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
 

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน (๑๓) ของข้อ ๑ ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ และใช้ความดังต่อไปนี้แทน

(๑๓) วัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก (Extensively drug - resistant tuberculosis(XDR - TB)) ดังนี้

(ก) กรณีวัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก ซึ่งเป็นวัณโรคที่มีการดื้อยา ๔ ขนานร่วมกัน ได้แก่  ไอโชไนอะซิต (Isoniazid)ไรแฟมพิซิน Rifampicin) กลุ่มยาฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolones)และกลุ่มยาทางเลือกที่สองที่เป็นยาชนิตฉีด (Second - line injectabledrugs) มีอาการไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย มีไข้ เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย สามารถแพร่เชื่อสู่ผู้อื่นใต้ ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการระบบการหายใจล้มเหลวและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

(ข) กรณีวัณโรคตี้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก ซึ่งเป็นวัณโรคที่มีการดื้อยาหลายขนานร่วมกัน ไต้แก่ ไรแฟมพิจิน (Rifampicin)โตยอาจดื้อต่อไอโซไนอะซิต (Isoniazid)ด้วยก็ได้และดื้อต่อกลุ่มยาฟลูออโรควิโนโลน (Flucroquinolones) ได้แก่ ลีโวฟล็อกชาซิน (Levofloxacin)ม็อกซิฟล็อกชาซิน (Moxifloxain) อย่างน้อยหนึ่งขนาน และดื้อต่อยาเบด้าควิลีน (Bedaquiline)หรือไลเนโซสิด (Linezolid) อย่างน้อยหนึ่งขนาน มีอาการไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด เบื่ออาหารน้ำหนักลด อ่อนเพลีย มีข้  เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย หรือมีอาการตามอวัยวะที่ติดเชื้อ สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการระบบทางเตินหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้"

ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗

ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗