- 15 พ.ค. 2567
เด็กชายวัย 14 ปีพร้อมแม่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีถูก “หมอเหรียญทอง” ตบหน้าและสั่งให้แก้ผ้า ปมแอบสูบบุหรี่ในรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
กรณีเหตุการณ์ หมอเหรียญทองตบเด็ก14ปี สาเหตุเพราะ เด็กชายคนดังกล่าว เพราะแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ พร้อมโดนยึดมือถือ และสั่งให้แก้ผ้าเดินออกจากโรงพยาบาล คืบหน้าล่าสุด 15 พ.ค.67 ที่สน.ทุ่งสองห้อง ทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อมด้วย ด.ช.วัย 14 ปี และแม่เดินทางเข้า ได้เดินทางเข้ามาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนกรณีที่ ด.ช. ได้แจ้งว่าถูกหมอเหรียญทองตบหน้าและสั่งให้แก้ผ้า หลังถูกจับได้ว่าตนแอบไปดูดบุหรี่ในห้องน้ำของโรงพยาบาล
ด.ช.เอ (นามสมมุติ) เด็กชายวัย 14 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนยอบรับว่าตนไม่รู้ว่าการสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ผิด ในส่วนที่คู่กรณีมีการออกมาโพสต์ว่าตนยกพวกไปขับรถจักรยานยนต์กลับก่อกวนที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำเช่นนั้น มีเเต่ตนได้ขอความช่วยเหลือจากประชาชนแถวนั้นให้ติดต่อแม่ของตนให้มารับที่โรงพยาบาลโดยแม่ของตนได้นั่งรถแท็กซี่มารับตนพร้อมกับญาติของตน ไม่มีการยกพวกมาก่อกวนเเต่อย่างใด ทั้งนี้ตนก็ยอมรับผิดจริงที่แอบสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล
แต่ตนก็อยากฝากถึงคู่กรณีว่า มีสิทธิ์อะไรที่มากระทำเช่นนี้ต่อตน ตนไม่เคยโดนโดนใครทำร้ายเเบบนี้มาก่อนแม้แต่กับพ่อหรือแม่ก็ไม่เคย
น.ส.กัลยา แม่ของ ด.ช.เอ กล่าวว่า ขอโทษและยอมรับกับการที่ลูกตนไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำ แต่สิ่งที่คู่กรณีทำกับลูกตน ตนมองว่ามันเป็นสิ่งที่เกินกว่าเหตุไปมาก ซึ่งตนก็ไม่เคยทำลูกเช่นนี้มาก่อน และทางคู่กรณียังไม่ได้มีการติดต่อมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุอีกด้วย แต่ก็ยืนยันหากว่ามีการขอโทษจากคู่กรณีหรือคืนทรัพย์สินและยกเลิกการจ่ายค่าปรับ ตนก็จะยังดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดอยู่เช่นเดิม
“ลูกหนูก็ไม่ใช่คนดีหรอ สิ่งที่เขาทำผิดหนูก็ยอบรับ แต่สิ่งพวกคุณทำผิดก็ต้องยอมรับด้วย” น.ส.กัลยา กล่าว
ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้ตนจะขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบในความผิดที่คู่กรณีได้กระทำต่อเด็กชายทั้งหมด 5 ข้อหา ประกอบด้วย
1.ทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นจนทำให้เป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายจิตใจ
2.ยักยอกทรัพย์
3.ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดหรือไม่กระทำการใดหรือทำให้เกรงกลัวอันตรายและเสรีภาพ
4. กักขังหน่วงเหนี่ยวก
5.กระทำอานาจาร โดยจะต้องรอตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนจะ พิจารณาให้เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง5 ข้อหานี้หรือไม่
โดยในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลใช้อำนาจเกินขอบเขตในการดำเนินการกับผู้เสียหายในโรงพยาบาล เนื่องจากผู้เสียหายได้กระทำความผิดกับกฎของโรงพยาบาลนั้น ก็ควรต้องทำตามกฏหมาย ซึ่งกฎหมายก็มีบทลงโทษอยู่ ไม่ควรที่จะตัดสินหรือลงโทษเอง
และไม่ใช่เห็นว่า ผู้เสียหายมารักษาฟรีแล้วจะทำอะไรก็ได้ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำนอกเหนือกฎหมาย ในส่วนของการตรวจร่างกายนั้น ที่ทางเเม่ของ เด็กชายได้มีการพาไปตรวจมาแล้วเมื่อวานต้องรอผลตรวจอีกทีว่าผลจะออกมาเป็นอยากไร ร้ายเเรงเเค่ไหน