อย่าหาทำ! ดัดแปลงโกงตาชั่ง เจอโทษคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 280,000 บาท

เตือนพ่อค้าแม่ค้าหัวใส อย่าหาทำ! ดัดแปลงตาชั่งโกงน้ำหนัก เจอโทษคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 280,000 บาท ตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542

อย่าหาทำ! ดัดแปลงโกงตาชั่ง เจอโทษคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 280,000 บาท 

อย่าหาทำ! ดัดแปลงโกงตาชั่ง เจอโทษคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 280,000 บาท  

ทางด้าน ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดอาคารสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 4-2 จันทบุรี และพิธีทำลายเครื่องชั่งผิดกฎหมาย ในวันนี้ว่า (16 พฤษภาคม 2567) กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้นำเครื่องชั่งสปริงที่ไม่เที่ยงตรง ชำรุด เสื่อมสภาพ หรือไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ตรวจยึดมาตามขั้นตอนของกฎหมาย มาทำลายทั้งหมด 696 เครื่อง

 

อย่าหาทำ! ดัดแปลงโกงตาชั่ง เจอโทษคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 280,000 บาท

 

โดยมีนายวิสุทธิ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายสมชัย ธรรมพัฒน์พงศ์รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองจันทบุรี นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรีนางวรัญญา ถนอมพันธ์ พาณิชย์จังหวัดตราด นางจิรนันท์ บัวสำลี พาณิชย์จังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด และผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ร่วมเป็นสักขีพยาน
 

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวต่อว่า การทําลายเครื่องชั่งผิดกฎหมาย ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องดําเนินการอย่างโปร่งใส โดยกรณีที่เป็นเครื่องชั่งสปริงใช้วิธีการทุบทำลายให้สิ้นสภาพไม่สามารถนำกลับมาใช้อีก และนำไปขายเป็นซากนำรายได้เข้าแผ่นดิน ซึ่งเป็นการรักษาความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนผู้บริโภคและเกษตรกรที่ใช้เครื่องชั่งในการคิดคำนวณน้ำหนักและราคาสินค้าที่ซื้อและขายกัน เนื่องจากการใช้เครื่องชั่งที่คลาดเคลื่อน ไม่เที่ยงตรง อาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่ามูลค่าของตัวเครื่องชั่งเอง


สำหรับการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถึง 15 พฤษภาคม 2567 มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด 106 คดี แบ่งเป็น การใช้เครื่องชั่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรอง 62 ราย , การใช้เครื่องชั่งที่ไม่เที่ยงตรง 10 ราย , การใช้เครื่องชั่งเสื่อมสภาพ 7 ราย , การโกงเครื่องชั่ง 3 ราย , บรรจุสินค้าไม่ครบตามปริมาณที่แสดง 12 ราย และความผิดอื่น ๆ 12 ราย