"อ.จตุรงค์" แฉยับ เชื่อมจิต ใครได้ประโยชน์ เทียบ น้องใบบุญ แม่ต้องสงบวาจา

อาจารย์จตุรงค์ จงอาษา แฉยับ เชื่อมจิตใครได้ประโยชน์? ยัน ไม่มีในพระไตรปิฎก เทียบ"น้องใบบุญ" แม่ต้องสงบวาจา!

อาจารย์จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา แขกรับเชิญรายการสืบเสาะเจาะข่าว ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่สำนักพระพุทธศาสนา ได้ยืนยันว่า “เชื่อมจิต” ไม่มีในพระไตรปิฎก ซึ่งเรื่องนี้นั้น อาจารย์จตุรงค์ ให้ความเห็นว่า หากไปย้อนดูคลิปหรือการเคลื่อนไหว ของลัทธิเชื่อมจิต เขายืนยันมาตลอดว่า ไม่เชื่อในพระไตรปิฎก และบางคำสอนก็ไม่มีในพระไตรปิฎกเหมือนกัน และยืนยันว่าพระไตรปิฎกเชื่อถือไม่ได้

"อ.จตุรงค์" แฉยับ เชื่อมจิต ใครได้ประโยชน์ เทียบ น้องใบบุญ แม่ต้องสงบวาจา

เมื่อถามต่อว่า เหมือนตอนนี้ลัทธิเชื่อมจิตนั้นสับสนหรือไม่? อาจารย์จตุรงค์ให้ความเห็นว่า กลุ่มของลัทธิเชื่อมจิตนั้น ไม่เคยมีจุดยืนคำสอนเป็นของตัวเองเลย พอกระแสสังคมตีกลับ ก็มายืนยันอีกว่า เชื่อมจิตมีในพระไตรปิฎก 

ส่วนในกรณีที่ลัทธิเชื่อมจิตนั้น มีการไล่ฟ้องตั้งแต่สื่อจนไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ นั้น อาจารย์จตุรงค์ก็เป็นอีกคนที่ถูกขู่ว่าจะถูกฟ้อง โดยอาจารย์มีการโต้กลับไปว่าอย่าคิดว่าตัวเองสามารถใช้กฎหมายไล่ฟ้องคนอื่นได้อย่างเดียว คนอื่นก็มีสิทธิ์ตามกฎหมายในการฟ้องร้องด้วยเช่นกัน 

ซึ่งอาจารย์จตุรงค์ยังแนะนำคนที่ถูกฟ้องว่า อย่าได้ไปแคร์คำขู่ของพวกมัน สิ่งที่เราต้องแคร์คือคำสั่งศาลว่าท่านนั้นจะว่าอย่างไร เราเคารพคำสั่งศาลแต่เราไม่เคารพคำฟ้องของกลุ่มเชื่อมจิต 

"อ.จตุรงค์" แฉยับ เชื่อมจิต ใครได้ประโยชน์ เทียบ น้องใบบุญ แม่ต้องสงบวาจา.

นอกจากนี้อาจารย์จตุรงค์ยังรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวของน้องไนซ์ ถ้าพ่อแม่เป็นแบบนี้ ไม่ยอมให้ลูกได้ลูกจักการใช้ชีวิตวัยเด็กเป็นเรื่องที่น่าห่วง แถมยังได้กุนชือแบบนี้ ซึ่งขอตั้งคำถามว่าสุดท้ายแล้วใครได้ประโยชน์กับเรื่องนี้กันแน่ 

ซึ่งอาจารย์จตุรงค์ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การให้เด็กนั้นได้เป็นตัวของตัวเอง มันดูได้ชัด อย่างเช่นรายการโหนกระแส เชิญน้องใบบุญมา น้องก็น่ารัก พ่อแม่ก็ไม่ต้องมาช่วยพูดอะไร ลูกสามารถอรรถาธิบาย ได้อย่างเต็มที่

ชมคลิป