งามไส้ ทนายเปิดหลักฐานใหม่ รพ. ใส่ท่อช่วยหายใจ บุ้ง ทะลุวัง ผิดตำแหน่ง

จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง  ล่าสุด นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนาย ความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิต และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ครอบครัวไม่ได้รับความร่วมมือในการเปิดเผยรายงานการรักษา น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมืองเสียชีวิต

 

ทนายความ ระบุว่า การที่ขอเพียง 5 วันเพื่อเลี่ยงที่จะมีข้ออ้างว่าถ้าขอผลการรักษายาวกว่านั้น ต้องใช้เวลา ทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ข้อมูลเพียง 5 วันย้อนหลังจะบ่งชึ้งมาตรฐานการรักษาว่าได้มาตรฐานหรือไม่อย่างไร รวมทั้งกล้องวงจรปิดก็ยังไม้ได้เช่นกัน ไม่ทราบว่าตรวจเจอเอกสารที่บกพรองหรือ อย่างไรถึงถ่วงเวลา ทั้งที่เอาข้อเท็จจริงการรักษามาแถลงกับสื่อหลายครั้ง ก็ไม่ได้ขออนุญาตญาติผู้ตาย จึงอยากถามเอากระวงข้อไหนมาอ้าง ยืนยันตอนนี้ยังกรมราชทัณฑ์ไม่ได้ให้รายงานการักษามา

 

นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ได้รับจากรพ.ธรรมศาสตร์ ให้ความร่วมมือตั้งแต่วันแรกที่บุ้ง เสียชีวิตและให้รายงานวันแรกที่เขารักษาตัวเมือ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งรายละเอียดการรักษามีเยอะ และก่อนหน้านี้เคยแถลงเบื้องต้นถึงสาเหตุการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว และขาดอากาศหายใจ และพบว่าเวลา 09.30 น.(ของวันที่ 14 พ.ค.) บุ้ง ไม่หายใจไม่มีสัญญาชีพ

 

สิ่งที่ รพ.ตรวจพบว่าการรักษาพยาบาลจากราชทัณฑ์ และส่งมาโดยรถพยาบาลทำผิดพลาด โดยใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง ซึ่งปกติท่อช่วยหายใจจะต้องสอดใส่ในหลอดลม แต่พบว่าใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหารทนายระบุว่า การใส่ท่อช่วยหายใจทางหลอดลม เพื่อให้หายใจและนำอากาศไปสู่ปอด เพื่อกระตุ้นให้ปอดทำและนำออกซิเจนไปเลี้ยง เพื่อให้หัวใจทำงาน แต่เขาใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหาร มีหลักฐานยืนยัน ตรวจสอบจากโรงพยาบาลในวันที่ส่ง บุ้ง มาที่รพ.ธรรมศาสตร์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และมีการถ่ายภาพรายละเอียดชัดเจน

 

ผลของการใส่ท่อช่วยหายใจผิดจุดผล คืออากาศลมที่ออกไปจะเข้าไปในท้องและในลำไส้ และจากการเข้าร่วมสังเกตด้วยตาในวันชันสูตร ก็เห็นและตอนผ่าชันสูตร ท้องบวมมาก และในลำไส้เต็มไปด้วยลม เพราะท่อหายใจส่งออกซิเจนเข้าไปในหลอดอาหารแทนที่จะเข้าไปในหลอดลมที่จะนำไปสู่ปอดโดยตรง ทำให้การวัดค่าหายใจมีค่าลมหายใจเป็นศูนย์ เมื่อถึงมือแพทย์ของรพ.ธรรมศาสตร์ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ให้รายงาน และปิดบังการรักษา ถามว่ารพ.ราชทัณฑ์ใส่ท่อหายใจไปที่หลอดอาหาร ตั้งแต่อยู่บนเตียงหรือไม่ เรื่องนี้เป็นสาเหตุให้ บุ้ง เสียชีวิต

นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบสารบางอย่าง ซึ่งจะวิเคราะห์ และแยกแยะจากผลตรวจเลือดต่อไป ยืนยันว่า น.ส.เนติพร เริ่มรับอาหาร และมีการให้ยาและให้โพแทสเซียม ก็รับมาตลอด ทนายความไปเยี่ยมทุกวัน และไม่เคยได้รับทราบข้อมูลหรือแพทย์แจ้งว่าปฏิเสธการรับยา และโพแทสเซียม หรือมีการให้อะไรที่ผิดพลาดจึงปกปิดรายงานยืนยันว่าจะไม่จบ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เสียชีวิตในการควบคุมดูแลของกรมราชทัณฑ์ และรพ.ราชทัณฑ์ได้แจ้งให้พี่สาวของ ไปดำเนินการในชั้นศาลต่อไป