ทนายรัชพล พร้อมแม่ และ เด็ก 14 ลุย แจ้งความหมอเหรียญทอง ลั่น ไม่มีการยอมความ 

ทนายรัชพล พร้อมแม่และเด็ก 14 เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ พนักงานสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เดินหน้าแจ้งความกับคู่กรณีอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการยอมความ 

เมื่อเวลา 12.30 วันที่ 21 พ.ค. ที่สน.ทุ่งสองห้อง ทนายรัชพล ศิริสาคร พา น.ส. กัลยา เย็นใจ แม่ของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี และแฟนสาวอายุ 17 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ต.จเร วิเชียรวรรณ์ รอง สว.(สอบสวน)สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ พล.ต.นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผ.อ. โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา 

 

ทนายรัชพล พร้อมแม่ และ เด็ก 14 ลุย แจ้งความหมอเหรียญทอง ลั่น ไม่มีการยอมความ 

โดย น.ส. กัลยา เย็นใจ แม่ของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ระบุว่า วันนี้ได้พาลูกชายมาให้ปากคำเพิ่มเติมในทุกประเด็น ซึ่งตนเองก็เตรียมใจไว้แล้ว และยอมรับทุกอย่างว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งในส่วนของยาเสพติดเองลูกชายก็ยอมรับว่ามีการยอมรับว่ามีการเสพไป 1 ครั้ง ซึ่งต้องแยกส่วนกัน ส่วนในคดีหลักจะเดินหน้าแจ้งความกับคู่กรณีอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการยอมความ ส่วนที่ทางนายแพทย์เหรียญทอง จะเอาผิดกับทางครอบครัวนั้น ก็มองว่าเป็นสิทธิ์ของเขา ไม่ได้มีความกังวลอะไร สุดท้ายผลออกมายังไงก็ยอมรับตามนั้น พร้อมเข้าสู่ขบวนการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทนายรัชพล ศิริสาคร ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งไปแล้ว 6 ข้อหา 1.ทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นจนทำให้เป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายจิตใจ 2.ยักยอกทรัพย์ 3. ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดหรือไม่กระทำการใดหรือทำให้เกรงกลัวอันตรายและเสรีภาพ 4. กักขังหน่วงเหนี่ยวก 5.กระทำอานาจาร และ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งวันนี้ตนยังไม่มั่นใจว่าตำรวจจะแจ้งทั้ง 5 ข้อหาเลยหรือไม่ จากการที่ได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นจะต้องรอปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพให้เสร็จสิ้นก่อน และดูว่าการกระทำของหมอเข้าข่ายความผิดข้อไหนบ้าง ต้องแจ้งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งตนยังคงกังวลในข้อหาบางข้อหาว่าจะเข้าข่ายหรือไม่ แต่เชื่อว่าในข้อหาอนาจาร เด็กไม่ได้เต็มใจที่จะถอดเสื้อผ้าแน่นอน เชื่อว่าเป็นการบังคับ ขมขู่  ถ้ามีการตั้งข้อหานี้จะมีโทษหนักสุดคือจำคุก 15 ปี

ทนายรัชพล พร้อมแม่ และ เด็ก 14 ลุย แจ้งความหมอเหรียญทอง ลั่น ไม่มีการยอมความ 

และที่ตนโพสผ่านเฟซบุ๊คว่า "ผลตรวจฉี่เด็ก14 ไม่พบสารเสพติด" นั้น ในการตรวจเบื้องต้นในชั้นโรงพัก มีการตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจหาสารเสพติดหลายชนิด ผลออกมาปรากฎว่าไม่พบสารเสพติด และปัสสาวะไม่มีสีม่วง ทั้งนี้จะต้องมีการตรวจเส้นผม หรือตรวจเลือดอีกครั้งเพื่อความชัดเจน หลังจากสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ และเด็กเองก็ยอมรับเองว่าเสพ ถ้าเกิดว่ามีสารเสพติดจริงก็พร้อมรับตามนั้น

ทั้งนี้การสอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพในวันนี้ จะมีการสอบแยกห้องระหว่างตัวเด็ก และแฟนสาวของเด็ก โดยมีบุคคลที่ไว้วางใจนั่นคือ แม่ของเด็ก 14 อยู่ด้วยอย่างใกล้ชิด