- 23 พ.ค. 2567
อดินันท์ กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เปิดเผย ความคืบหน้าการรักษาคนไข้ จากกรณีเกิดอุบัติภัยหมู่เครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์
วันนี้(23 พ.ค. 67) นายอดินันท์ กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ แถลงข่าวความคืบหน้าการรักษาคนไข้ จากกรณีเกิดอุบัติภัยหมู่เครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ SQ 321 ซึ่งเดินทางจากลอนดอน มุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงระหว่างเส้นทางจนตกหลุมอากาศ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจํานวนมากและเสียชีวิต
นายอดินันท์ ผอ.โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า คนไข้ที่อยู่ในความดูแลรักษาของโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มีจํานวนทั้งสิ้น 41 คน ประกอบด้วย ชาวอังกฤษ 10 คน ออสเตรเลีย 9 คน มาเลเซีย 7 คน ฟิลิปปินส์ 4 คน อเมริกัน 2 คน นิวซีแลนด์ 2 คน และ เมียนมา ไอริช ไอซ์แลนด์ อิสราเอล เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และสเปน ประเทศละ 1 คน
โดยใน 41 คนนี้ มีอาการบาดเจ็บ แบ่งเป็น อาการบาดเจ็บของกระดูกส้นหลังและไขสันหลัง 22 คน อาการบาดเจ็บกระโหลกศีรษะและสมอง 6 คน และอาการบาดเจ็บของกระดูก กล้ามเนื้อและอื่นๆ 13 คน โดยประเมินจากอาการหนักสุดของผู้บาดเจ็บ ซึ่งมี 1 คน อาการทุเลาลงและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ทําให้ล่าสุดตอนนี้โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มีผู้ป่วยอยู่ในความดูแลทั้งสิ้น 40 คน ได้รับการผ่าตัดแล้ว 17 คน เป็นการผ่าตัดกระดูกสันหลังช่วงคอ 5 คน ผ่าตัดกระดูกสันหลังล่วงอก 4 คน และผ่าตัดซ่อมแซมแผลฉีกขาด 8 คน ส่วนผู้ป่วยในห้องไอซียูยังอยู่ที่ 20 คน เท่าเดิม โดยผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษามีอายุตั้งแต่ 2-83 ปี ซึ่งอาการของผู้ป่วยที่เป็นเด็กไม่น่าเป็นห่วงและยังไม่มีผู้ป่วยรายใดที่จะอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนการประเมินว่าผู้ป่วยจะพิการหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้ เพราะจำเป็นจะต้องมีการประเมินจากทีมแพทย์และติดตามอาการรายวัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลรักษาผู้ป่วยนานเท่าใดนั้น นายอดินันท์ ระบุว่า ยังคงเร็วไปที่จะตอบเรื่องนี้ แต่ทีมแพทย์มีการประเมินอาการในทุกๆวันหากผู้ป่วยอาการดีขึ้นและมีความพร้อมก็สามารถอนุญาตให้กลับบ้านได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลมีการประสานกับสถานทูตแฃะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอด
ทั้งนี้ นายอดินันท์ ผอ.โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลมีบุคลากรและทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งหมด